ตู้แช่แข็ง ยี่ห้อไหนดี ในปี 2022

สำหรับบ้านเรือนหรือร้านค้าไหน ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ที่กำลังมองหาตู้แช่แข็งเพิ่มเติมจากตู้เย็นที่มีอยู่แล้วเพื่อใช้ในการแช่แข็งอาหาร แช่ไอศครีม น้ำแข็ง ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการแช่แข็ง หรือต้องการแช่อาหารที่ปรุงสุกแล้วให้แข็งเพื่อให้สามารถเก็บได้เป็นเวลาหลายเดือนแล้วล่ะก็ต้องมาอ่านรีวิวนี้เลย เพราะว่าวันนี้เราจะมาสรุปรวมข้อดีและคุณลักษณะที่ดีของตู้แช่แข็งนั้นเป็นยังไงบ้าง

ก่อนที่พ่อบ้านแม่บ้านหรือเจ้าของกิจการจะตัดสินใจซื้อตู้แช่แข็งสักตัวต้องรู้ก่อนว่าตู้แช่แข็งนั้นจะแตกต่างจากตู้เย็นเล็กน้อยในส่วนของการใช้พลังงาน เพราะตู้แช่แข็งที่ยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งจะกินไฟมาก นั่นหมายความว่าขนาดของตู้แช่แข็งจะมีผลต่อการใช้ไฟ ในขณะที่ตู้เย็นนั้นสามารถออกแบบให้สามารถประหยัดไฟได้แม้มีขนาดใหญ่ก็ตาม และการที่ตู้แช่แข็งหนึ่งตัวจะเป็นตู้แช่แข็งที่ดีนั้นจะต้องมีมาพร้อมกับระบบทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถปรับอุณหภูมิให้ได้จุดเยือกแข็งโดยเร็วเมื่อใส่อาหารเข้าไปในตู้แช่แข็ง นอกจากนี้ยังควรมีฉนวนกันความร้อนที่คุณภาพสูงเพื่อป้องกันความร้อนภายนอกเข้าไปในตัวตู้แช่แข็ง ฉนวนที่ดีจะช่วยให้เราประหยัดไฟได้มาก และการที่ตู้แช่แข็งทำจากวัสดุแผ่นเดียวแบบไร้รอยต่อนั้นก็สามารถช่วยป้องกันความร้อนได้ และด้วยประแสรักษ์โลก ตู้แช่แข็งในยุคปัจจุบันควรใช้สารทำความเย็นที่ไม่มีสาร CFC ขึ้นไปสร้างภาวะเรือนกระจกให้กับชั้นบรรยากาศ และอีกอย่าง ตู้แช่แข็งที่ดีนั้นจะต้องตอบสนองความต้องการการใช้งานและพื้นที่ใช้สอยเป็นอย่างดี มีความจุและการใช้พลังงานที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรารวมถึงเหมาะกับประเภทอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการแช่แข็งว่าเป็นชนิดใด ถ้าเป็นอาหารที่สามารถสร้างความเสียหายได้รวดเร็วเช่น ไอศกรีม พ่อบ้านแม่บ้านหรือเจ้าของร้านรวงทั้งหลายก็ควรพิจารณาซื้อตู้แช่แข็งที่คุณภาพค่อนข้างดีและสามารถเก็บความเย็นไว้ได้นานเมื่อไฟดับเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับผลิตภัณฑ์ของเรา

ตู้แช่แข็งจะมีทั้งแบบทรงต่ำ (ทรง Chest) และทรงสูง (ทรง Upright) โดยพบว่าส่วนมากแล้วบ้านเราจะใช้ตู้แช่แข็งแบบทรงต่ำมากกว่าเนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าและประหยัดพลังงานกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าตู้แช่แข็งประเภทนี้ยังช่วยลดโอกาสทำให้เกิดน้ำแข็งภายในตัวอาหารด้วย เนื่องจากไม่ค่อยพบการละลายน้ำแข็งเองโดยไม่ได้ตั้งใจ ข้อดีอีกอย่างของตู้แช่แข็งประเภทนี้คือทำงานเงียบกว่า แต่ทั้งนี้ รุ่นนี้ก็มีข้อด้อยอยู่บ้างเช่น ตะกร้าที่อยู่ในตู้แช่แข็ง แม้จะมีการจัดวางอย่างเป็นระเบียบ แต่ก็ทำให้เราเข้าถึงอาหารได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับแบบทรงสูง และตู้แช่แข็งแบบทรงสูงนั้นจะมีข้อดีอย่างที่บอกไปก็คือ สามารถเข้าถึงอาหารได้ง่าย แต่ว่าจะมีปัญหาในเรื่องของความเย็นที่กระจายทั่วถึงทุกบริเวณของตู้แช่แข็ง และยังพบอีกว่าระบบละลายน้ำแข็งของตู้แช่แข็งประเภทนี้จะค่อนข้างมีปัญหา เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ และคุณสมบัตินี้จะทำให้อุณหภูมิตู้แช่แข็งสูงขึ้นชั่วคราวและจะส่งผลต่อสมรรถภาพในการทำงานของตู้แช่แข็ง นอกจากนี้ ตู้แช่แข็งประเภทนี้จะมีราคาสูงกว่าตู้แช่แข็งแบบทรงต่ำ แต่ส่วนมากก็ใช้พื้นที่ในการจัดวางตู้แช่แข็งน้อยกว่าแบบทรงต่ำ

1. Haier HCF108H-2 GY
2. Haier HCF-228-2
3. Haier HCF-208H-2
4. Natural NFT-4258
5. Haier FCD-295H-2
6. Panasonic SF-PC499

1. Haier HCF108H-2 GY

ตู้แช่แข็งขนาดกะทัดรัด ประหยัดพลังงาน ทำงานเงียบ

ตู้แช่แข็งรุ่นนี้มาพร้อมขนาดความจุ 103 ลิตรหรือ 3.7 คิว โดยที่จุดเด่นของตู้แช่แข็ง Haier รุ่นนี้จะมีฉนวนกันความร้อนคุณภาพดีที่เรียกว่า Micro Biologice Foaming โดยมีฉนวนกันความร้อนที่ทั้งบริเวณตัวตู้และฝาตู้ ช่วยป้องกันการรั่วไหลของความเย็นออกจากตัวตู้แช่แข็งด้วย ฉนวนกันความร้อนนั้นสำคัญต่อตู้แช่แข็งเป็นอย่างมากเนื่องจากจะช่วยเก็บความเย็นไว้ในตู้แช่แข็งได้เป็นอย่างดีและยังช่วยประหยัดพลังงานด้วย ตู้แช่แข็งในตระกูล Haier รุ่นนี้เรียกได้ว่าเหมาะกับครัวเรือนขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ แต่ไม่เหมาะกับร้านค้าเพราะว่ามีขนาดความจุเพียง 103 ลิตร สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก มีล้อเลื่อนที่หมุนได้รอบทิศ มีกุญแจล็อคตัวตู้เพื่อรักษาความปลอดภัยด้วย รุ่นนี้เรียกได้ว่าทำงานเงียบและมีค่าความดังของเสียงอยู่ที่ 39 เดซิเบลเท่านั้น ซึ่งค่าความดังเสียงนี้ยิ่งน้อยยิ่งแสดงว่าตู้แช่แข็งทำงานเงียบ ไม่ส่งเสียงรบกวนแม้ในตอนกลางคืน

ข้อดีของตู้แช่แข็งในตระกูล Haier คือการออกแบบตู้แช่แข็งมาเพื่อประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั่นหมายความว่าตู้แช่แข็งรุ่นนี้จะกินไฟน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ สำหรับน้ำยาทำความเย็นก็ใช้แบบไม่มีสาร CFC ซึ่งไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและไม่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก ที่ตัวตู้แช่แข็งมีปุ่มที่สามารถเร่งหรือลดความเย็นได้ มีประโยชน์ในกรณีที่เราพึ่งนำผลิตภัณฑ์หรืออาหารเข้าแช่ในตู้แช่แข็งและต้องการให้เย็นรวดเร็ว เราก็สามารถกดเร่งความเย็นจากกลุ่มนี้ได้ ตัวควบคุมอุณหภูมิของตู้แช่แข็งรุ่นนี้มีคุณภาพค่อนข้างสูงและผ่านการทดสอบมาเป็นอย่างดี ระบบทำความเย็นของตัวเครื่องจะเป็นระบบ Direct Cooling ที่ให้ความเย็นทั่วทั้งตู้แช่แข็งอย่างสม่ำเสมอ

2. Haier HCF-228-2

ตู้แช่แข็งขนาดจุใจ ฉนวนกันความร้อนคุณภาพเยี่ยม เคลื่อนย้ายสะดวก

มาถึงอีกรุ่นของตู้แช่แข็ง Haier กันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้จะมีราคาแพงขึ้นมาอีกหน่อยเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว แต่ว่าขนาดความจุนั้นเพิ่มขึ้นมาเกือบเท่าตัวเลยล่ะ โดยรุ่นนี้สามารถจะได้ถึง 198 ลิตร ตู้แช่แข็งรุ่นนี้มาพร้อมกับล้อเลื่อนที่หมุนได้รอบทิศ ภายในตัวตู้แช่แข็งมีไฟเพื่อให้แสงสว่างการใช้งานตอนกลางคืนหรือในที่มืดและไฟแจ้งเตือน ตู้แช่แข็งรุ่นนี้มาพร้อมกับกุญแจล็อคตู้แช่แข็งด้วย และมาพร้อมกับมีปุ่มเร่งความเย็นที่เรียกว่าปุ่มแช่แข็งอย่างรวดเร็วหรือ Fast Freeze นั่นเอง

ส่วนคุณลักษณะเฉพาะของตู้แช่แข็ง Haier รุ่นนี้ก็จะพบว่าความโดดเด่นกว่าตู้แช่แข็งรุ่นอื่นเนื่องจากฉนวนกันความร้อนที่ใช้นั้นสามารถป้องกันความร้อนจากภายนอกให้เข้าสู่ตัวตู้แช่แข็งได้เป็นอย่างดี และมีการบุฉนวนกันความร้อนทั้งที่ตัวฝาตู้และที่ตัวตู้แช่แข็ง เช่นเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้านี้ รุ่นนี้จะมาพร้อมกับปุ่มที่ใช้เร่งความเย็นและลดความเย็นได้ในตัว ตระกูล Haier นั้นมีชื่อเสียงในเรื่องของตู้แช่แข็งที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยที่สารให้ความเย็นของตู้แช่แข็งก็ไม่ใช้สาร CFC เช่นกัน ความโดดเด่นของตู้แช่แข็งรุ่นนี้ก็คือหรือสามารถเก็บความเย็นในระดับที่ทำให้อาหารแข็งอยู่ได้ถึง 100 ชั่วโมงในกรณีที่ไฟดับ ซึ่งมีประโยชน์มากในพื้นที่ที่ไฟฟ้าดับบ่อยครั้งและดับเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ยังเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการแช่ผลิตภัณฑ์หรืออาหารที่มีความอ่อนไหวหรือมีมูลค่าสูง ที่หากผลิตภัณฑ์นั้นละลายขึ้นมาจะเกิดความเสียหายอย่างยิ่ง เทคโนโลยีทำความเย็นภายในตัวตู้แช่แข็งรุ่นนี้จัดเป็นแบบ Direct Cooling ซึ่งจะทำให้ทุกส่วนของตู้แช่แข็งได้รับความเย็นอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ แถมยังทำงานเงียบอีกด้วย

3. Haier HCF-208H-2

ตู้แช่แข็งความคงทนสูง รักษาความเย็นได้ถึง 100 ชั่วโมง ระบบทำความเย็นกระจายทั่วถึง

ตู้แช่แข็งรุ่นที่ 3 ที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็ยังเป็นตู้แช่แข็ง Haier เนื่องจากตระกูลนี้เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแม่ในการผลิตตู้แช่แข็งที่ทั้งมีคุณภาพและประหยัดพลังงาน รุ่นที่กำลังพูดถึงอยู่นี้เป็นรุ่นขนาดกลางระหว่างตัวแรกกับตัวที่ 2 โดยสามารถจุได้ประมาณ 142 ลิตร ซึ่งเหมาะสมสำหรับครัวเรือนขนาดกลางขึ้นไปจนถึงขนาดใหญ่ รวมถึงกิจการร้านค้าหรือร้านอาหารด้วย โดยรุ่นนี้จะมีจุดเด่นที่ความสามารถในการทำความเย็นที่ลงไปได้ถึง – 28 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ช่วงอุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง -18 ถึง – 28 องศา ภายในตัวตู้แช่แข็งนั้นทำจากอลูมิเนียม 100% และตัวผนังของตัวตู้แช่แข็งนั้นหุ้มด้วยฉนวนกันความร้อนอย่างดี ป้องกันการเล็ดลอดของอากาศร้อนได้มาก จึงช่วยประหยัดพลังงาน

นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังสามารถเก็บความเย็นไว้ได้ถึง 100 ชั่วโมงแม้ไฟดับ เนื่องจากมีฉนวนกันความร้อนคุณภาพสูงและตัวโครงเครื่องทำจากวัสดุไร้รอยต่อที่ช่วยป้องกันการรั่วไหลของอากาศภายนอกเข้าสู่ภายในตู้แช่แข็ง คุณสมบัติชูโรงของตู้แช่แข็งรุ่นนี้คือสามารถทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่าแม้เราจะใส่อาหารใหม่เข้าไปในตู้แช่แข็งก็จะทำให้อาหารนั้นได้อุณหภูมิการแช่แข็งอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับตัวเลือกปุ่มควบคุมอุณหภูมิที่ให้พ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลายหรือผู้ใช้งานตู้แช่แข็งสามารถปรับอุณหภูมิภายในตู้แช่แข็งนี้ให้เหมาะกับประเภทอาหารหรือประเภทสินค้า รวมทั้งปริมาณที่บรรจุเข้าไปในตู้แช่แข็งด้วย และเจ้าปุ่มควบคุมนี้ยังแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบด้วยเมื่ออุณหภูมิของตู้แช่แข็งสูงเกินไป เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า รวมทั้งอาหารที่แช่อยู่ในตู้แช่แข็ง และการแจ้งเตือนนี้ยังมีประโยชน์ในการช่วยปกป้องคอมเพรสเซอร์ไม่ให้ทำงานหนักเกินไปด้วย ทำให้ยืดอายุการใช้งานไปได้มาก ส่วนภายในตัวตู้แช่แข็งจะมีตระกร้าไว้แบ่งสัดส่วนการจัดเก็บอาหารหรือผลิตภัณฑ์ให้เป็นระเบียบและช่วยให้เข้าถึงอาหารหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ภายในตัวตู้แช่แข็งได้ง่าย

4. Natural NFT-4208

ตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ พร้อมปรับความเย็น 5 ระดับ โครงร่างไร้รอยต่อ

มาถึงตู้แช่แข็งในตระกูล Natural กันบ้าง โดยที่ตู้แช่แข็งยี่ห้อนี้มีออกมาหลายรุ่นและรุ่นนี้มีความจุค่อนข้างเยอะพอสมควร เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ไปจนถึงกิจการร้านอาหารหรือร้ายขายของชำ ความจุของตู้แช่แข็งรุ่นนี้จะสูงถึง 258 ลิตรหรือ 9.2 คิว แต่น้ำหนักก็ถือว่าไม่หนักมาก โดยอยู่ที่ประมาณ 50 กิโลกรัมเท่านั้น

คุณลักษณะเฉพาะของตู้แช่แข็งรุ่นนี้คือตัวตู้ทำจากแผ่นเหล็กเคลือบ ตัวโครงเหล็กที่ว่านี้ทำจากเหล็กแผ่นเดียวและไร้รอยต่อ จึงช่วยป้องกันการเล็ดลอดของอากาศได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังหุ้มด้วยพลาสติกอีกชั้น ด้านนอกเคลือบผิวมันและสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี แถมยังทำความสะอาดง่าย ด้านบนของตัวตู้เป็นฝาทึบพร้อมมีกุญแจล็อค ปุ่มปรับระดับความเย็นมาพร้อมกับความเย็น 5 ระดับที่สามารถปรับลดได้ต่ำสุด -23 องศา (ตั้งแต่ 3 ถึง -23 องศาเซลเซียส) และมาพร้อมกับระบบควบคุมแบบ Mechanical สำหรับผู้ใช้งานคนไหนที่ไม่ชอบตู้แช่แข็งที่ชอบมีน้ำแข็งเกาะแล้วล่ะก็ รุ่นนี้ก็จะเหมาะมากเพราะว่าสามารถใช้งานแบบไม่มีน้ำแข็งเกาะได้ นอกจากนี้ ตู้แช่แข็งรุ่นนี้ยังขึ้นชื่อว่าสามารถใช้แช่เครื่องดื่ม รวมไปถึงผักและผลไม้ได้ (แช่เย็นได้) และตู้แช่แข็งนี้มามีระบบตัดไฟอัตโนมัติด้วย รวมถึงมีระบบปรับแช่แข็งเร็วหรือ Fast Freeze ซึ่งเพียงภายใน 1 ชั่วโมงก็สามารถปรับลดอุณภูมิลงได้ถึงอุณหภูมิต่ำสุด (-23 องศา) ด้วย

5. Haier FCD-295H-2

ตู้แช่แข็ง 2 ระบบความเย็น ความจุสูง แช่แข็งได้ต่ำสุด -34 องศา

วันนี้เราจะรีวิวตู้แช่แข็ง Haier กันเยอะหน่อยเนื่องจากว่าตระกูลนี้นั้นค่อนข้างมีชื่อเสียงในการทำตู้แช่แข็งและระบบทำความเย็นตู้แช่ โดยรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่มีความจุมากถึง 295 ลิตรหรือประมาณ 10.5 คิว นั่นหมายความว่ารุ่นนี้จะเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ไปจนถึงกิจการร้านค้าหรือร้านอาหาร เรามาดูกันดีกว่าว่าตู้แช่แข็งขนาดนี้มีฟังชั่นอะไรให้เราบ้าง

ก่อนอื่นเลยเราจะพบว่าตู้แช่แข็งรุ่นนี้เป็นรุ่นพี่ใหญ่ของ Haier ซึ่งถ้าเทียบราคากับความจุแล้วก็ถือว่าไม่แพงเลยเพราะว่าสามารถแช่อาหารได้ถึง 295 ลิตร เป็นแบบฝาทึบที่แยกเป็นสองส่วนด้วยกัน และที่สำคัญผนังตู้แช่แข็งรุ่นนี้ทำจากอลูมิเนียมแท้ 100%  ซึ่งตู้แช่แข็งรุ่นนี้ใช้ระบบทำความเย็น 2 ประเภทและสามารถใช้ได้ทั้งเป็นตู้เย็นและตู้แช่แข็งไปในตัวโดยมีผนังกั้นกลางระหว่างประเภทอาหาร ระบบทำความเย็นจะใช้เป็นระบบเทอร์โมสตัทในการควบคุมอุณหภูมิของทั้งตู้ ทำให้ได้ความเย็นอย่างทั่วถึง ปุ่มควบคุมอุณหภูมิสามารถเร่งความเย็นได้ภายในปุ่มเดียว โดยที่เมื่อต้องการลดหรือปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับประเภทอาหารหรือปริมาณของอาหารและสินค้าที่แช่ในตู้แช่แข็ง ก็ใช้งานเพียงปุ่มนี้ปุ่มเดียว

ส่วนฉนวนกันความร้อนนั้นทำจากวัสดุกันความร้อนคุณภาพสูง รวมถึงมีความหนาสูงด้วยจึงช่วยเก็บความเย็นและป้องกันความร้อนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ อย่างที่กล่าวไปแล้วผนังตู้แช่แข็งรุ่นนี้ทำจากอลูมิเนียมแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงสามารถช่วยกันความร้อนได้อีกชั้นและช่วยกระจายความเย็นได้เป็นอย่างดี อีกอย่าง การแบ่งตู้แช่แข็งเป็น 2 ส่วนนั้นสามารถแยกการใช้งานได้ทั้งแช่แข็งและแช่เย็น ซึ่งอุณหภูมิแช่แข็งสามารถลดลงต่ำสุดไปได้ -14 ถึง -34 องศา ส่วนตู้เย็นนั้นสามารถทำความเย็นลดลงไปอยู่ในช่วง +10 ถึง -10 องศาด้วยกัน ส่วนสารทำความเย็นที่ใช้ในตู้เย็นและตู้แช่แข็งรุ่นนี้ก็ไม่ใช่สาร CFC จึงปลอดภัยกับสิ่งแวดล้อม น้ำหนักตัวตู้เมื่อเทียบกับความจุก็ไม่เยอะแค่ประมาณ 51 กิโลกรัม หลายคนคงคิดว่าตู้แช่แข็งขนาดนี้จะทำงานค่อนข้างเสียงดัง แต่จริง ๆ แล้วตู้แช่แข็งที่มาพร้อมกับตู้แช่เย็นรุ่นนี้ทำงานเงียบและมีค่าความดังของเสียงอยู่ที่แค่ 45 เดซิเบลเท่านั้น

6. Panasonic SF-PC499

ตู้แช่แข็งคอมเพรสเซอร์และคอยล์ทำความเย็นทนทาน ฉนวนกันความร้อนหนาพิเศษ

 นอกจากจะทำในส่วนของตู้เย็นแล้วตระกูล Panasonic ยังกระโดดมาทำตู้แช่แข็งด้วยซึ่งรุ่นนี้เป็นแบบฝาทึบรุ่นกลาง ๆ ที่ออกแบบมาให้มีความจุในการแช่แข็งประมาณ 113 ลิตรหรือประมาณ 4.0 คิว โดยตู้แช่แข็งรุ่นนี้สามารถทำความเย็นได้ -20 องศาเซลเซียส สิ่งที่ตู้แช่แข็งรุ่นนี้ค่อนข้างให้ความสำคัญก็คือคุณภาพของคอมเพรสเซอร์ที่ทำงานทนทานที่ Panasonic นั้นรับประกันการทำงานของคอมเพรสเซอร์ถึง 5 ปีด้วยกัน

รถตู้แช่แข็งรุ่นนี้ก็ผสานรวมฉนวนป้องกันความร้อนที่มีความหนาแน่นสูงโดยทำจากโพลียูรีเทนที่มีความหนาถึง 60 มิลลิเมตร และใช้สารที่ไม่ใช่ CFC ในการทำความเย็น  นั่นหมายความว่าจะช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับการทำความเย็นและการป้องกันอากาศร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประหยัดพลังงานไปได้มาก ส่วนตัวคอยล์ทำความเย็นนั้นทำจากทองแดงแท้ 100% ที่มีความทนทานต่อการสึกกร่อนค่อนข้างสูง ทำให้ตู้แช่แข็งใช้งานได้เป็นเวลานานขึ้น รูปทรงภายนอกของตู้แช่แข็งนั้นค่อนข้างกะทัดรัดและมีด้ามจับค่อนข้างใหญ่ที่ให้ความสะดวกสบายในการเปิด-ปิดตู้แช่แข็ง ตัวตู้แช่แข็งเคลือบด้วยกรรมวิธีพิเศษที่ช่วยปกป้องตู้แช่แข็งให้ใช้งานได้นาน และที่ด้านหน้าตัวตู้แช่แข็งนั้นมีปุ่มควบคุมอุณหภูมิที่ใช้งานง่าย ท่อระบายน้ำออกจากตู้แช่แข็งนั้นทำจากวัสดุที่ไม่เป็นสนิม ซึ่งส่วนนี้ค่อนข้างสำคัญเพราะจะพบว่าตู้แช่แข็งหลายยี่ห้อที่ใช้วัสดุที่เป็นสนิม ทำให้อายุการใช้งานของท่อระบายน้ำนั้นใช้ได้ไม่นานเนื่องจากมีสนิมเกาะและสึกกร่อนไป ด้านล่างของตู้ก็มีล้อเลื่อนเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายตู้แช่แข็งรุ่นนี้ได้อย่างสะดวกสบาย