ลู่วิ่งไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี?

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าทุกวันนี้ประเทศไทยเข้าสู่ยุคที่มีเด็กไทยรวมถึงผู้ใหญ่ไทยของเรามีน้ำหนักเกินเกณฑ์ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัญหานี้เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เลียนแบบชาติตะวันตกมากขึ้นเรื่อย ๆ อาหารจำพวก “เบอร์เกอร์” หรือ “ไก่ทอดกรอบ” หรือ “มันฝรั่งทอด” ที่อมน้ำมันนั้น ถือเป็นอาหารที่พบได้ทั่วไปที่ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในบ้านเรามีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ขึ้นไปเรื่อย ๆ ปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินนั้นไม่ใช่เพียงแค่การมีรูปร่างที่ดูไม่ดีเท่านั้น แต่ไขมันที่เยอะเกินไปสามารถเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดของเราได้ หากไปอุดผิดที่ เช่น เส้นเลือดในสมอง ก็ทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้ หรือถ้าไปอุดในเส้นเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงหัวใจ ก็ทำให้หัวใจวายได้ ดังนั้น นอกจากการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารแล้ว การออกกำลังกายนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรมีเพิ่มเติมของเราอีกด้วย

วันนี้ทางเราจึงอยากจะมารีวิวถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการออกกำลังกายกันอย่างเช่น “ลู่วิ่งไฟฟ้า” หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า “Treadmill” ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนเมืองได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากบ้านเราไม่เหมือนเมืองนอกที่มีลู่จักรยานหรือทางเดินที่เราสามารถออกไปวิ่งได้สบาย ๆ การที่เรามีลู่วิ่งไฟฟ้าสักเครื่องไว้ที่บ้านก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเช่นกันนะ แต่ก่อนที่เราจะไปดูว่ามีลู่วิ่งไฟฟ้าที่น่าซื้อหามาไว้ในบ้านและออฟฟิสเรานั้น ไปดูกันก่อนดีกว่าว่ามีเคล็ดลับการตัดสินใจก่อนเลือกซื้ออย่างไรบ้างที่เรานำมาแนะนำในวันนี้

แนวทางในการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า

ลู่วิ่งไฟฟ้านั้นอาจกลายมาเป็นเพื่อนคู่ใจในการสร้างร่างกายที่แข็งแรงและช่วยในการลดน้ำหนักของเราก็เป็นได้ ดังนั้นการที่จะเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าสักตัว เราก็ควรเลือกที่ตัวเองชื่นชอบ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้งานให้บ่อยครั้งนั้นเอง แนวทางการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าในวันนี้จะช่วยให้นักช้อปทั้งหลายสามารถเลือกเฟ้นลู่วิ่งไฟฟ้าได้ตรงใจและความต้องการของตัวเองมากที่สุด

ใครควรใช้ลู่วิ่งไฟฟ้า?

ถ้าหากคุณเป็นคนที่ชอบวิ่งหรือชอบเดินอยู่แล้วล่ะก็ การที่มีลู่วิ่งไฟฟ้าไว้ในบ้านนั้นก็ช่วยให้คุณสามารถ เพลิดเพลินไปกับการออกกำลังกายได้ รวมถึงทำได้ง่ายและมีแรงจูงใจสูงกว่าการต้องออกไปวิ่งข้างนอกด้วย และถ้าคุณเป็นหนึ่งในสมาชิกฟิตเนสหรือโรงยิมเพื่อไปใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าแล้วล่ะก็ บางทีการที่มีลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นของตัวเองนั้นก็ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางแล้วก็เงินค่าสมาชิกไปได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากคุณกำลังฝึกร่างกายด้วยการเดินหรือการวิ่งอยู่แล้ว ลู่วิ่งไฟฟ้าก็ถือเป็นการลงทุนที่ดีโดยเฉพาะในกรณีที่คุณอาศัยอยู่นั้นมีพื้นที่ที่ห่างไกลกับสวนสาธารณะหรือในช่วงที่สภาพอากาศไม่เหมาะกับการออกไปวิ่ง (ฝนตก ฟ้าร้อง อากาศร้อนจัดที่อาจทำให้ปวดศีรษะได้) นอกจากนี้ลู่วิ่งไฟฟ้ายังเหมาะมากกับคนชอบอยู่บ้านดูทีวีขณะออกกำลังกาย นั่นทำให้ลู่วิ่งไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทเติมเต็มและตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ของเราไปได้มากเลยทีเดียว

สำหรับนักออกกำลังกายในฝันคนไหนที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือไม่เคยออกกำลังกายเลยนั้น ควรไตร่ตรองสักเล็กน้อยก่อนที่คิดจะซื้อเครื่องวิ่งไฟฟ้าหรือลู่วิ่งไฟฟ้าราคาเป็นหมื่นมาไว้ที่บ้าน หลายต่อหลายคนเชื่อว่าตนเองจะออกวิ่งเมื่อได้ลู่วิ่งไฟฟ้ามาตั้งไว้ที่บ้านก่อน แต่กลับพบว่าลู่วิ่งไฟฟ้าที่ซื้อมาแสนแพงนั้นไม่ได้เป็นแรงบันดาลใจเลยถ้าเราไม่ได้ตั้งเป้าหมาย ในการเลือกตำแหน่งการวางลู่วิ่งไฟฟ้าภายในบ้านของคุณนั้น ทางเราขอแนะนำว่าควรวางส่วนท้ายของลู่วิ่งไฟฟ้าให้ห่างจากผนังหลายฟุต ส่วนด้านหน้าและด้านข้างก็ให้วางห่างประมาณ 2 ฟุตเพื่อความปลอดภัย รวมถึงในเรื่องของการเซ็ตลู่วิ่งไฟฟ้าให้ทำงานได้ควรให้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ในการประกอบและติดตั้งมาช่วยคุณจะช่วยลดข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นระหว่างการติดตั้งได้ดีแบบสุด ๆ เอาล่ะ หลังจากที่คุณได้ทราบถึงเทคนิคการเลือกซื้อลู่วิ่งไฟฟ้ากันไปแล้วพอหอมปากหอมคอกันแล้ว คราวนี้เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นไหนที่คุณภาพดีและมีฟังชั่นอะไรบ้างที่เราสามารถตอบโจทย์การใช้งานเพื่อเรียกหุ่นสวยงาม ร่างกายแข็งแรงของเรากลับคืนมาได้!!!

1. Johnson Treadmill 8.1T + Passport
2. Power Reform Motorized Treadmill
3. FORWARD 3HP FD-T500
4. Van Burgh Motorized Treadmill 1.25 HP
5. HHSociety Jogging Machine
6. B&G Motorized Treadmill 3 Hp

1. ลู่วิ่งไฟฟ้า Johnson รุ่น Johnson 8.1T

ลู่วิ่งไฟฟ้ารอบวิ่งสูง คุณภาพเยี่ยม ฟังก์ชั่นความบันเทิงครบครัน   

คุณสมบัติเด่นอื่น ๆ: เล่นไฟล์ MP3 ในตัว / ลำโพงในตัว / Energy saver mode / เทคโนโลยีรับแรงกระเทือน

ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่สามารถเล่นไฟล์ MP3 ได้ในตัว และด้วยลำโพงที่ติดตั้งมากับลู่วิ่งไฟฟ้าด้วย ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถรองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้ถึง 148 กิโลกรัมเลยทีเดียว สายพานของลู่วิ่งตอบสนองแรงกดจากเท้าของเราเป็นอย่างดีทำให้เราไม่รู้สึกถึงแรงอัดไปที่ต้นขาขณะวิ่ง รวมถึงไม่รู้สึกว่าลู่วิ่งกระชากตัวเราด้วย ทำให้การวิ่งนั้นเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น วัสดุที่ใช้ในการผลิตลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นวัสดุดีมาก และตัวลู่วิ่งไฟฟ้าก็ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพการใช้งานสูง โปรแกรมวิ่งสามารถปรับได้ 14 โปรแกรม มอเตอร์ที่ใช้ในลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงผ่านการทดสอบการใช้งานถึง 6000 ชั่วโมงโดยไม่ติดขัด ตัวมอเตอร์ทำงานเงียบโดยเสียงเบาเพียง 75 เดซิเบล ทำให้ไม่รบกวนการฟังเพลงหรือดูทีวีขนาดวิ่ง เมื่อต้องการจะเปลี่ยนโหมดจากการวิ่งเป็นการเดินก็สามารถทำได้ง่ายตัวมอเตอร์หมุนนั้นจะตอบสนองเป็นอย่างดีกับการเคลื่อนไหวเท้าของเรา  

หน้าจอที่มาพร้อมกับตัวลู่วิ่งไฟฟ้าจะเป็นหน้าจอขนาด 5.75 นิ้ว ที่หน้าจอ LCD มีไฟหลังสีฟ้า ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับฟังก์ชันที่ให้คุณเชื่อมโยงกิจกรรมการวิ่งของคุณเข้ากับแอปพลิเคชั่น เพื่อให้คุณติดตามการออกกำลังกายของตัวเองแล้วก็สามารถแชร์ข้อมูลการออกกำลังกายของตัวเองที่ได้จากลู่วิ่งไฟฟ้าตัวนี้บนสังคมออนไลน์ได้ง่าย ๆ ด้วยโปรแกรม Viewfit ฟังก์ชั่นแสดงภาพ 3 มิติขณะออกกำลังกาย ทำให้คุณวิ่งหรือเดินไปในสถานที่นั้นจริง ๆ ซึ่งเรียกว่าเทคโนโลยี “พาสปอร์ต” หรือเลือกเป็นการแสดงข้อมูลต่าง ๆ เช่น พลังงานที่เผาผลาญไป เวลาที่ใช้ไป อัตราการเต้นของหัวใจ และความก้าวหน้าว่าเข้าใกล้เป้าหมายมากน้อยแค่ไหนแล้ว เป็นต้น ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถปรับความเร็วได้ตั้งแต่ 0.8 ถึง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานที่เรียกว่า Energy saver mode ด้วย

2. Power Reform Motorized Treadmill

ลู่วิ่งไฟฟ้าช่วยการบำบัดและการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ บาร์จับรอบด้าน

คุณสมบัติเด่นอื่น ๆ: ระบบวัดชีพจรแบบมือจับ / ล้อด้านล่างเพื่อการเคลื่อนย้าย

ลู่วิ่งไฟฟ้าหรือลู่เดินไฟฟ้ารุ่นนี้ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ มาพร้อมกับบาร์จับเพื่อพยุงตัว โดยมอเตอร์ของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้มีกำลังอยู่ที่ 1 แรงม้า เหมาะสำหรับการทำกายภาพบำบัดหรือการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ตัวลู่วิ่งไฟฟ้าราคาถูกรุ่นนี้สามารถรองรับน้ำหนักได้สูงสุด 100 กิโลกรัม และสามารถวิ่งได้ที่ความเร็วสูงสุด 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  หน้าจอของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นหน้าจอ LCD ที่ใช้แสดงข้อมูล 5 ข้อมูลด้วยกัน นั่นคือ ความเร็วขณะวิ่งหรือเดิน ระยะทาง เวลา พลังงานที่เผาผลาญไป และชีพจรของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นฟังก์ชันพื้นฐานของลู่วิ่งไฟฟ้าทั่วไป สำหรับระบบวัดชีพจรจะเป็นแบบมือจับ

ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับปุ่มรักษาความปลอดภัยที่เรียกว่า Safety Key เพื่อป้องกันอันตรายขณะใช้งาน ขนาดสายพานลู่วิ่งของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้อยู่ที่ 34 x 100 เซนติเมตร ออกแบบมาให้เหมาะกับสรีระของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้มาพร้อมกับโปรแกรมการออกกำลังกายจำนวน 3 โปรแกรมด้วยกัน อุปกรณ์ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ผ่านการทดสอบว่าใช้งานได้กับผู้ป่วยและผู้สูงอายุซึ่งได้รับมาตรฐาน CE, RoHS, TUS, GS และ SGS Certification ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยกับการใช้งานอย่างยิ่ง ข้อเสียของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้คือไม่มีฟังก์ชั่นเอียง ที่ตัวเครื่องมีล้อที่ด้านล่างเพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายลู่วิ่งไฟฟ้า ขอบด้านข้างของลู่วิ่งไฟฟ้าที่อยู่ถัดจากสายพานวิ่งนั้นมีความกว้างถึง 7 เซนติเมตร ทำให้ตัวเครื่องแข็งแรงและมั่นคง

3. ลู่วิ่งไฟฟ้า FORWARD รุ่น FORWARD 3 HP รุ่น FD-T500

ลู่วิ่งไฟฟ้ามอเตอร์ 3 แรงม้าประหยัดพลังงาน ปรับความชันอัตโนมัติ รับแรงกระแทกสูง

คุณสมบัติเด่นอื่น ๆ: ระบบรับแรงกระแทก Spring Shock Adsorption / ระบบ Auto-Inject Lubrication / หน้าจอ LCD 6.5 นิ้ว

สำหรับลู่วิ่งไฟฟ้าตัวที่ 3 ที่เราจะดูกันในวันนี้จะเป็นลู่วิ่งไฟฟ้าของตระกูล FORWARD ที่มีกำลังของมอเตอร์ถึง 3 แรงม้าแต่เป็นมอเตอร์ประหยัดพลังงาน (Energy Saving Motor) สามารถปรับความเร็วของลูกวิ่งได้ตั้งแต่ 1 ถึง 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลู่วิ่งไฟฟ้า FORWARD ตัวนี้มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการปรับความชันลู่วิ่งไฟฟ้าได้อัตโนมัติ โดยจะสามารถปรับเอียงได้สูงสุดถึง 15% ตัวเครื่องสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 120 กิโลกรัม ตัวเครื่องติดตั้งระบบโช๊คเพื่อรองรับแรงกระแทกขณะวิ่ง ทำให้เวลาวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าจะไม่กระเทือน โดยเทคโนโลยีที่ใช้รองรับแรงกระแทกเรียกว่า Spring Shock Adsorption ที่ช่วยลดแรงกระแทกที่ข้อเท้าและหัวเข่า (คุณสมบัติชูโรงของลู่วิ่งไฟฟ้า FORWARD) ช่วยถนอมร่างกายของเราด้วยขณะวิ่ง

สำหรับขนาดของสายพานลู่วิ่งนั้นอยู่ที่ 42 x 120  เซนติเมตร เป็นสายพานที่ประกอบกัน 5 ชั้นเพื่อรองรับการกระแทกและสร้างการวิ่งที่นุ่มนวลขึ้น นอกจากนี้ยังมีฉนวนกันเสียงที่ทำจากโพลียูรีเทนด้วยเพื่อดูดซับเสียงรบกวน แผ่นยางหนาพิเศษเพื่อรับแรงกระแทกขณะวิ่งเร็ว ๆ ส่วนตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอ LCD 6.5 นิ้วที่แสดงข้อมูลระยะเวลา ความเร็ว ระยะทาง พลังงานที่เผาผลาญ (แคลอรี) และชีพจรของผู้วิ่ง ตัวเครื่องสามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ผ่านแอพพลิเคชั่น รองรับการเล่น MP 3 ผ่านมือถือหรือปกรณ์สื่อสารได้ง่าย ๆ สามารถตั้งได้การทำงานได้ 12 โปรแกรมด้วยกัน อุปกรณ์มี Safety Key ที่ช่วยป้องกันอันตรายด้วย มีระบบฉีดน้ำมันหล่อลื่นอัตโนมัติหรือที่เรียกว่า ระบบ Auto-Inject Lubrication บริเวณแท่นของลู่วิ่งไฟฟ้านั้นออกแบบมาให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น โดยมีที่วางกระบอกน้ำ โทรศัพท์มือถือ รวมถึงมีที่วางแท็บเล็ตซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ด้วย ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน CE, ROHS, TUS, GS และ SGS C ertification ซึ่งเป็นลู่วิ่งไฟฟ้าที่คุณสมบัติและฟังก์ชั่นขนาดนี้ที่ราคาหลักหมื่นต้น ๆ นี้ถือว่าไม่แพงเลย เพราะผ่านมาตรฐานการทดสอบมาเช่นเดียวกับลู่วิ่งไฟฟ้าราคาสูงแบรนด์อื่น ๆ ตัวเครื่องสามารถพับเก็บได้ง่าย โดยที่พับขึ้นได้ 70 องศา

4. ลู่วิ่งไฟฟ้า Van Burgh รุ่น TP-007

ลู่วิ่งไฟฟ้าราคาสวย สายพานหน้ากว้าง มีน้ำหนักเบา

คุณสมบัติเด่นอื่น ๆ: ระบบ เรียกว่า Shock Absorbing / สายพานที่ตอบสนองรวดเร็ว

ต่อไปเรามาดูลู่วิ่งไฟฟ้าในตระกูล Van Burgh (อ่านว่า แวน เบอฮ์) กันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับกำลังมอเตอร์ที่ระดับ 1.25 แรงม้า สามารถปรับความเร็วในการวิ่งได้ตั้งแต่ 1 ถึง 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 100 กิโลกรัม ลู่วิ่งไฟฟ้า Van Burgh รุ่นนี้ผ่านการทดสอบการควบคุมคุณภาพมาตรฐานสากล ทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพของลู่วิ่งไฟฟ้าว่าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความทนทาน ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบกันกระเทือนที่เรียกว่า Shock Absorbing ที่นอกจากจะดูดซับแรงกระเทือนจากการวิ่งแล้วยังช่วยให้ลู่วิ่งไฟฟ้าทำงานเงียบ โครงสร้างของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้มีความแข็งแรงพอสมควร ซึ่งสามารถรับน้ำหนักได้ใกล้เคียงกับลู่วิ่งไฟฟ้าราคาแพง ๆ เลยทีเดียว

หน้าจอเป็นแบบหน้าจอ LCD พื้นสายพานลู่วิ่งมีขนาด 110 x 340 เซนติเมตร ซึ่งถือว่ากว้างมาก ๆ ทำให้สะดวกในการวิ่งและรู้สึกปลอดภัยขณะวิ่ง ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ถูกที่สุดในบรรดาลู่วิ่งไฟฟ้าที่เรารีวิวกันมาในวันนี้ ตัวเครื่องมาพร้อมกับฟังก์ชั่นความชันที่ทำให้รู้สึกเหมือนการเดินขึ้นเนิน นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมการใช้งานถึง 12 โปรแกรมด้วย หน้าจอของลู่วิ่งไฟฟ้าราคาถูกรุ่นนี้จะแสดงข้อมูลพื้นฐานทั่วไป นั่นคือ ระยะทาง เวลา ความเร็ว พลังงานที่เผาผลาญ (แคลอรี) และรอบความเร็ว ปุ่มต่าง ๆ ของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ออกแบบมาให้สามารถปรับความเร็วในการวิ่งได้สะดวกและตอบสนองการใช้งานของผู้วิ่งอย่างรวดเร็วด้วย ตัวเครื่องมีปุ่ม Safety Key สำหรับการหยุดฉุกเฉินเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการใช้งาน นอกจากนี้ตรงฐานของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ยังมีล้อเลื่อนสำหรับการจัดเก็บที่ง่ายและเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถพับเก็บเป็นแนวตรงได้โดยสมบูรณ์ (90 องศา) ทำให้ไม่เกะกะพื้นที่ รวมถึงตัวลู่วิ่งไฟฟ้าเองนั้นมีน้ำหนักน้อยมากเพียง 27 กิโลกรัมเท่านั้น

5. ลู่วิ่งไฟฟ้า BG รุ่น F18

ลู่วิ่งไฟฟ้าโช๊คกันกระแทกคู่ มอเตอร์ 3 แรงม้าทนทานสูง ทำงานเงียบเพียง 68 เดซิเบล  

คุณสมบัติเด่นอื่น ๆ: ระบบกันกระแทกคู่ / ออกแบบมาให้เข้ากับสรีระร่างกายมนุษย์ยิ่งขึ้น / ฟังก์ชั่นตรวจจับชีพจรพิเศษ

ลู่วิ่งไฟฟ้าตัวสุดท้ายที่เราจะรีวิวกันในวันนี้เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าสำหรับออกกำลังกายที่มาพร้อมกับมอเตอร์ขนาด 3 แรงม้า ด้านล่างของลู่วิ่งติดตั้งระบบโช๊คกันกระแทกแบบ Dual หรือระบบกันกระแทกคู่ที่ช่วยรับแรงกระแทกจากการวิ่งได้เป็นอย่างดี สามารถปรับความเร็วการวิ่งได้ตั้งแต่ 1 ถึง 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถปรับความชันได้ที่ 3 และ 5 องศาซึ่งเป็นแบบปรับลาดเอียงด้วยตนเอง (Manual Inclination) รองรับน้ำหนักการใช้งานสูงสุดถึง 110 กิโลกรัม พื้นที่บนสายพานวิ่งนั้นอยู่ที่ 42 x 120 เซนติเมตร ซึ่งที่หน้ากว้างที่ 42 เซนติเมตร นี้เป็นการออกแบบมาให้พอดีกับสรีระร่างกายของมนุษย์นั่นเอง รุ่นนี้ออกแบบมาให้ประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นถึงอีก 25% ซึ่งนอกจากจะเป็นการถนอมมอเตอร์ที่มีสูงถึง 3 แรงม้าแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์อีกด้วย รวมถึงตัวมอเตอร์เองออกแบบมารับประกันการใช้งานถึง 5 ปีเลยทีเดียว  

หน้าจอของลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้เป็นแบบ LCD เหมือนกัน ซึ่งจะแสดงข้อมูลระยะเวลา ความเร็ว ระยะทาง พลังงานที่เผาผลาญ รวมถึงชีพจรของผู้ใช้งาน ซึ่งตัวลาวิ่งรุ่นนี้มีฟังก์ชั่นการตรวจจับชีพจรที่พิเศษกว่ารุ่นอื่น ๆ ทำให้สามารถจะชีพจรในแบบเรียลไทม์ได้ดีกว่า โปรแกรมการออกกำลังกายของลู่วิ่งไฟฟ้า BG รุ่นนี้มีมากถึง 15 โปรแกรมด้วยกัน ที่ตัวเครื่องรองรับการเล่นเพลง MP3 ผ่านมือถือ มีพอร์ตสาย USB และเชื่อมต่อ Bluetooth เพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้ง่าย ๆ คุณสามารถดาวน์โหลดแอปฯที่สามารถใช้ได้ทั้งกับระบบปฏิบัติการ iOS และ Android และเชื่อมต่อเข้ากับตัวเครื่องออกกําลังกายลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ได้ ทำให้ไม่พลาดการเชื่อมต่อกับโลกภายนอกหรือความบันเทิงขณะออกกำลังกาย ตัวเครื่องมีปุ่ม Safety Key เพื่อป้องกันอันตรายขณะใช้งาน ลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้ทำงานเงียบมากโดยมีกำลังเสียงเพียง 68 เดซิเบลเท่านั้น ทำให้ไม่รบกวนการฟังเพลงหรือดูทีวี ตัวเครื่องผ่านการทดสอบมาตรฐาน CE, RoHS, TUS, GS และ SGS Certification ที่ทำรับรองความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง บริเวณแท่นลู่วิ่งไฟฟ้ารุ่นนี้มีที่วางแท็บเล็ต กระบอกน้ำ และโทรศัพท์มือถือด้วย ตัวเครื่องสามารถพับเก็บได้ น้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 56 กิโลกรัม เมื่อดูตัวประสิทธิภาพเครื่อง มอเตอร์ ความทนทาน และฟังก์ชันการใช้งานแล้วล่ะก็ รุ่นนี้ถือว่าเป็นลู่วิ่งไฟฟ้าคุ้มราคาอีกตัวหนึ่งที่คุณภาพดีเลยล่ะ