ปัจจุบันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่าการใส่เสื้อผ้าให้ดูดีนั้น จะช่วยเสริมสร้างบุคลิกของเราให้ดีขึ้นได้มากเลยทีเดียว ถ้าหนุ่มหล่อหน้าตาดีแต่ใส่เสื้อยับ ๆ ไปทำงานก็คงไม่น่าดูสักเท่าไหร่ หรือสาวสวยหน้าตาดี แต่ใส่เสื้อผ้าที่ไม่รีดแล้วก็คงดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เนอะ ดังนั้น เตารีดจึงเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ช่วยปรับการแต่งกายของเราให้ดีขึ้นได้ แต่คิดว่ายุคสมัยนี้คงไม่มีใครที่ยังใช้เตารีดถ่านอยู่ ใช่มั้ย? พอพูดถึงเตารีดถ่านหลายคนคงจะนึกภาพไม่ออกว่ามีหน้าตาเป็นยังไง เตารีดถ่านในสมัยก่อนจะตีขึ้นมาจากเหล็กเป็นรูปเตารีดเหมือนเช่นในปัจจุบัน โดยภายในตัวเตารีดจะกลวงเพื่อให้ใส่ถ่านและให้ความร้อนกับเหล็ก จากนั้นเหล็กที่ร้อนก็จะรีดผ้าได้เรียบนั่นเอง ปัญหาของคนเมื่อเกือบ 30 ปีก่อนนั้น (บางที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ก็ต้องใช้เตารีดถ่าน) ก็คือการที่ขี้เถ้าจากเตารีดถ่านหล่นออกมาและเปรอะไปตามเสื้อผ้าแล้วก็โดนหน้าเตารีดรีดทับติดไปกับผ้านั่นเอง ยิ่งเป็นเสื้อสีขาว เช่น เสื้อนักเรียน แล้วล่ะก็ อาจทำให้วันนั้นทั้งวันหัวเสียได้เลยทีเดียว
ต้องขอบคุณยุคของเทคโนโลยีที่ทำให้อะไร ๆ ก็ง่ายไปทุกอย่าง โดยได้เปลี่ยนเตารีดไฟฟ้าที่เมื่อก่อนยังพบปัญหาการรีดติดผ้าบ้าง รีดไม่ลื่นบ้าง รีดไม่เรียบบ้าง จนทำให้คุณแม่บ้านทั้งหลายเหงื่อไหลไคลย้อยเหมือนอยู่ในซาวน่ากันไปแล้ว เรื่องเหงื่อตกเช่นนี้ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วในเทคโนโลยีเตารีดยุคปัจจุบันซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นับได้ว่าครอบครัวส่วนใหญ่มีแอบซุกไว้ในมุมใดมุมหนึ่งของบ้านอย่างแน่นอน
เรารีดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะมีอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน นั่นคือ เตารีดธรรมดากับเตารีดแรงดันไอน้ำ ซึ่งทั้งสองแบบมีข้อดีต่างกันอยู่หลายประการ ลองมาดูกันคร่าว ๆ ว่าแต่ละแบบนั้นมีอะไรบ้าง
- เตารีดธรรมดามีราคาถูกกว่า สามารถรีดได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องหยุดเติมน้ำ น้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย การดูแลรักษาเตารีดให้ใช้งานได้นานก็ทำได้ง่ายกว่า แต่ประสิทธิภาพการรีดผ้านั้นจะด้อยกว่ามาก ทำให้เปลืองแรงและเวลา รวมถึงไม่สามารถรีดผ้าได้ทุกชนิดเนื่องจากเป็นเตารีดแห้งที่จะสามารถทำลายผ้าบางชนิดได้
- เตารีดไอน้ำนั้นจะมีราคาสูงกว่า การรีดต่อเนื่องนั้นสามารถทำได้แต่การรีดผ้าในปริมาณมากจะต้องมีการเติมน้ำในเครื่องพ่นไอน้ำบ่อยครั้ง แล้วแต่เครื่องว่าสามารถเติมน้ำได้ในขณะที่รีดผ้าหรือไม่ น้ำหนักตัวเครื่องจะหนักกว่าเตารีดธรรมดาเนื่องจากมีฐานรองรับเป็นแท็งค์ใส่น้ำเพื่อใช้ฉีดพ่นเวลารีดผ้า การดูแลรักษาจะทำได้ยากกว่าเนื่องจากมีแท็งค์น้ำที่สามารถเกิดตะกรันได้ แต่ประสิทธิภาพในการรีดผ้านั้นดีกว่ามาก สามารถรีดผ้าได้เรียบลื่นไม่เปลืองแรงและไม่เปลืองเวลา สามารถรีดผ้าได้หลากหลายชนิดมากกว่าเนื่องจากเป็นไอน้ำและช่วยถนอมเนื้อผ้าด้วย
ดังนั้นการเลือกใช้เตารีดแรงดันไอน้ำจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการรีดผ้าให้เรียบในทุกสถานการณ์และไม่เปลืองเวลา แม่บ้านหรือสาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากเหงื่อไหลย้อยเวลารีดผ้าแล้วล่ะก็ ฟังทางนี้เลย วันนี้เราจะมารีวิวกันให้ดูสัก 5 รุ่นก่อนเรียกน้ำย่อยเบา ๆ ไปกันเลย
1. Philips SpeedCare
เตารีดแรงดันไอน้ำรีดเรียบ ทันใจ พร้อมนวัตกรรมถนอมสีผ้าให้เหมือนใหม่สดอยู่เสมอ
รายละเอียด | Philips SpeedCare |
---|---|
ความจุแท็งค์น้ำ | 1,200 มิลลิลิตร |
พลังไอน้ำ | 140 กรัม/นาที |
แรงดันไอน้ำ | 4.5 บาร์ |
กำลังไฟฟ้า | 2,400 วัตต์ |
เวลาพร้อมใช้งาน | 2 นาที |
รับประกัน | มี |
สำหรับเตารีดตัวแรกที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ก็คือเตารีดแรงดันไอน้ำในตระกูล Philips ซึ่งรุ่นนี้เรียกอีกชื่อว่ารุ่น SpeedCare ที่เร่งเวลาในการรีดผ้าให้รวดเร็วขึ้น ความจุแท็งค์น้ำสูงถึง 1,200 มิลลิลิตร ทำให้สามารถรีดได้ต่อเนื่องยาวนาน แผ่นความร้อนเป็นแบบเซรามิก ตัวเตารีดออกแบบมาพร้อมระบบควบคุมพลังไอน้ำโดยใช้พลังไอน้ำในแนวตั้งที่แรงดันปั๊มสูงสุด 4.5 บาร์ เตารีดไอน้ำรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบเพิ่มพลังไอน้ำ 140 กรัมต่อนาที ข้อดีของเตารีดรุ่นนี้คือ สามารถรีดได้เรียบและเร็วตามชื่อรุ่นของเตารีด ทำให้ไม่เปลืองเวลาและพลังงาน คุณสมบัติเด่นของเตารีดรุ่นนี้ก็คือจะมีปุ่มล็อคการทำงานเครื่องเมื่อต้องการเคลื่อนย้าย นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะให้ขจัดตะกรันที่ติดอยู่ที่ผิวหน้าของเตารีดโดยเตารีดรุ่นนี้จะมาพร้อมกับน้ำยาขจัดตะกรัน ซึ่งสามารถขจัดคราบได้อย่างชาญฉลาด คุณสมบัติเด่นอีกอย่างของเรารีดรุ่นคือสายที่สามารถหมุนได้ 180 องศา ซึ่งจะทำให้การรีดผ้านั้นสะดวกมากขึ้นเนื่องจากสายจะปรับทิศทางตามมุมที่เราทำขณะรีดผ้า
รูปโฉมภายนอกของเตารีดพลังไอน้ำของ Philips ตัวนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีพอสมควร เตารีดรุ่นนี้สามารถรีดได้เรียบอย่างรวดเร็วและออกแบบมาให้ถนอมเนื้อผ้าด้วย บางครั้งเราจะพบปัญหาว่าเตารีดบางรุ่นร้อนเกินไปจนทำให้ผ้าสีซีดเร็ว เตารีดแรงดันไอน้ำ Philips รุ่น Speed care ตัวนี้ช่วยถนอมสีผ้าได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับการใช้งานกับผ้าที่ต้องการการทะนุถนอมเป็นพิเศษ เตารีดสามารถทำความร้อนได้เร็วภายใน 2 นาที ท่อส่งน้ำยาวถึง 1.6 เมตร ส่วนของท่อส่งน้ำมาพร้อมกับช่องเก็บท่อส่งน้ำด้วย ทำให้ไม่เกกะ ความยาวสายไฟยาวถึง 1.8 เมตร ในกรณีที่น้ำหมดขณะรีดผ้า เตารีดแรงดันไอน้ำรุ่นนี้ออกแบบให้สามารถเติมน้ำได้ตลอดเวลา ช่องเติมน้ำมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษทำให้น้ำไม่หกเลอะ ภายในตัวเครื่องมีระบบป้องกันปัญหาน้ำแห้ง น้ำที่ใช้เติมในแท็งค์ควรใช้น้ำที่ผ่านการกรองมาแล้ว เนื่องจากช่วยกรองฝุ่นละอองที่สามารถเกิดคราบออกไปได้ แต่ถ้าใครไม่มีน้ำกรองก็สามารถใช้น้ำประปาได้ แต่ก็ถือว่าไม่ดีเท่าน้ำกรอ
ข้อดี | ข้อเสีย |
➕ รีดเรียบได้เร็ว | |
➕ ระบบสายไฟหมุน 180 องศา | |
➕ ถนอมผ้า |
Philips SpeedCare
[wp_live_scraper id=”647″]
ราคาปกติ [wp_live_scraper id=”648″]
ประหยัดทันที [wp_live_scraper id=”649″]
2. Electrolux ESS4105
เตารีดแรงดันไอน้ำความปลอดภัยสูง แผ่นความร้อนคุณภาพสูง ร้อนเร็ว
รายละเอียด | Electrolux ESS4105 |
---|---|
ความจุแท็งค์น้ำ | 1,200 มิลลิลิตร |
พลังไอน้ำ | 115 กรัม/นาที |
แรงดันไอน้ำ | 4.5 บาร์ |
กำลังไฟฟ้า | 2,350 วัตต์ |
เวลาพร้อมใช้งาน | 1.5 นาที |
รับประกัน | มี |
เตารีดในตระกูล Electrolux ก็เป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงทั้งในต่างประเทศและในเมืองไทย ถึงแม้จะมีราคาสูงขึ้นมาจากเตารีดไอน้ำอื่นขึ้นมาบ้าง แต่ด้วยคุณภาพของความเป็น Electrolux แล้ว ผู้คนจำนวนมากพบว่าเตารีดไอน้ำรุ่นนี้สามารถใช้งานได้คุ้มค่าเป็นเวลานานหลายปีเลยทีเดียว เตารีดไอน้ำรุ่นนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง เราลองไปดูพร้อม ๆ กันเลย
เตารีดแรงดันไอน้ำรุ่นนี้เป็นเตารีดไอน้ำแบบแยกหม้อต้มเช่นเดียวกับรุ่นด้านบน โดยมีฟังก์ชันเพิ่มความปลอดภัยคือจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติภายใน 10 นาทีเมื่อไม่มีการใช้งาน ตัวด้ามจับเตารีดเป็นยางเพื่อกันลื่นเพื่อให้จับถนัดมือขึ้น ด้านหน้าเตารีดเคลือบสารกันติดเพื่อให้สามารถรีดผ้าที่บอบบางหรือผ้าใยสังเคราะห์ได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ เตารีดไอน้ำรุ่นนี้สามารถทำความร้อนได้เร็วภายในเพียง 1.5 นาทีเท่านั้น พลังพ่นไอน้ำอยู่ที่ 115 กรัม/นาที ที่แรงดันไอน้ำ 4.5 บาร์และสามารถปรับได้ถึง 3 ระดับด้วยกัน
หน้าจอของเตารีดรุ่นนี้เป็นแบบ LED พร้อมมีฟังก์ชั่นเตือนเมื่อน้ำหมดจากแท็งค์น้ำ ความยาวท่อส่งไอน้ำยาวกว่ารุ่นด้านบนเล็กน้อยคือ 1.8 เมตร ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้นในพื้นที่กว้าง เช่น ร้านตัดเสื้อผ้า เป็นต้น รุ่นนี้มาพร้อมแท็งค์บรรจุน้ำขนาด 1,200 มิลลิลิตรที่สามารถถอดออกจากตัวฐานได้และมีระบบลดการเกิดตะกรัน ทำให้สามารถใช้งานได้กับน้ำประปาที่ไม่ผ่านการกรองแต่ยังไงเสียการใช้น้ำกรองก็จะดีกับตัวเครื่องมากกว่า สายไฟของเตารีดไอน้ำรุ่นนี้มีความยาวถึง 1.9 เมตร อย่างที่บอกคือ นอกจากจะเหมาะสำหรับการใช้ในครัวเรือนแล้ว รุ่นนี้ยังเหมาะกับการใช้ในธุรกิจเสื้อผ้าอีกด้วย
ข้อดี | ข้อเสีย |
➕ มีระบบรักษาความปลอดภัย | |
➕ หน้าจอ LED | |
➕ สายไฟยาว |
3. Tefal GV4630
เตารีดแรงดันไอน้ำขนาดเล็ก ราคาเป็นมิตร ที่มาพร้อมพลังไอน้ำสูง
รายละเอียด | Tefal GV4630 |
---|---|
ความจุแท็งค์น้ำ | 700 มิลลิลิตร |
พลังไอน้ำ | 110 กรัม/นาที |
แรงดันไอน้ำ | 4.2 บาร์ |
กำลังไฟฟ้า | 2200 วัตต์ |
เวลาพร้อมใช้งาน | 4 นาที |
รับประกัน | มี |
เตารีดแรงดันไอน้ำรุ่นนี้เป็นเตารีดในตระกูล Tefal ที่ได้มาตรฐานยุโรป เตารีดในตระกูล Tefal นี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส โดยผู้สร้างเริ่มต้นจากการทำกระทะเคลือบผิวหน้าด้วยเทฟล่อน จากนั้นก็มีการพัฒนามาทำเตารีดด้วย ดังนั้นเตารีดรุ่นนี้จึงมีความโดดเด่นในเรื่องของผิวหน้าแผ่นทำความร้อนที่สามารถรีดได้เรียบและไม่ทำลายเนื้อผ้า เตารีดรุ่นนี้ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวเมื่อเทียบคุณภาพกับเวลา โดยแรงดันไอน้ำรุ่นนี้จะส่งพลังไอน้ำได้ต่อเนื่อง 110 กรัม/นาที ทีแรงดันไอน้ำ 4.2 บาร์ ตัวแผ่นทำความร้อนของเตารีดรุ่นนี้เป็นเซรามิกและมีแผ่นกันติด ซึ่งเรียกว่าอีซี่ไกลดิ้งเซรามิค (EASY GLIDING Ceramic) ที่ออกแบบมาให้สามารถรีดได้เรียบลื่นมาก ทำให้ไม่เปลืองแรงในการรีด แถมยังประหยัดพลังงานด้วย สายไฟที่ติดกับตัวเตารีดเคลื่อนไหวได้สะดวก ทำให้สามารถรีดผ้าได้ทุกทิศทางไม่ต้องคอยปรับสายไฟ โดยสายไฟของเตารีดรุ่นนี้มีความยาว 1.7 เมตร พลังไอน้ำทำให้สามารถรีดผ้าได้เรียบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เตารีดรุ่นนี้เหมาะสำหรับการใช้งานภายในครัวเรือนเนื่องจากแท็งค์น้ำมีความจะประมาณ 700 มิลลิลิตร การนำไปใช้ในกิจการที่ต้องรีดผ้าในปริมาณมากทำให้ต้องเติมน้ำบ่อยครั้ง แต่ความจุเท่านี้ก็เหมาะสมกับราคาและคุณภาพที่มาจากยุโรป เนื่องจากตัวเครื่องคุณภาพดี สามารถใช้งานได้นาน รุ่นนี้อาจมีข้อด้อยอยู่บ้างเล็กน้อย นั่นคือ หม้อต้มไอน้ำใช้เวลาประมาณ 4 นาที ซึ่งถือว่านานกว่ารุ่นอื่น ๆ ภายในมีระบบทำความสะอาดตะกรัน ที่ตัวเครื่องจะมีไฟแสดงขึ้นในกรณีที่น้ำหมดแล้วเราต้องเติมน้ำเพิ่มเข้าไปในแท็งค์น้ำ แต่แท็งค์น้ำของเตารีดรุ่นนี้สามารถเติมน้ำได้ง่าย ไม่ค่อยมีปัญหา
ข้อดี | ข้อเสีย |
➕ รีดผ้าได้เรียบและเร็วมาก | ➖ ใช้เวลาต้มน้ำค่อนข้างนาน |
➕ น้ำหนักเบา | |
➕ แผ่นทำความร้อนคุณภาพยุโรป |
Tefal GV4630
[wp_live_scraper id=”650″]
ราคาปกติ [wp_live_scraper id=”651″]
ประหยัดทันที [wp_live_scraper id=”652″]
4. Philips PerfectCare
เตารีดแรงดันไอน้ำทรงพลัง สมบูรณ์แบบ การรีดผ้าประสิทธิภาพสูง
รายละเอียด | Philips PerfectCare |
---|---|
ความจุแท็งค์น้ำ | 2,200 มิลลิลิตร |
พลังไอน้ำ | 200 กรัม/นาที |
แรงดันไอน้ำ | 5 บาร์ |
กำลังไฟฟ้า | 2400 วัตต์ |
เวลาพร้อมใช้งาน | 2 นาที |
รับประกัน | มี |
เตารีดพลังไอน้ำรุ่นนี้เป็นของตระกูล Philips ซึ่งจะเป็นรุ่นที่สูงขึ้นมาจากรุ่นที่ได้รีวิวไปก่อนหน้านี้ โดยรุ่นนี้จะมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นตามชื่อรุ่น นั่นก็คือ PerfectCare Viva แผ่นความร้อนของเตารีดรุ่นนี้เป็นเซรามิคเทคโนโลยีสตีมไกลด์ (SteamGlide) ที่ออกแบบมาให้มีความร้อนสูง รีดได้ลื่นและป้องกันรอยขีดข่วนด้วย เตารีดสามารถส่งพลังไอน้ำได้อย่างต่อเนื่องสูงมากถึง 200 กรัมต่อนาที ทำให้ประสิทธิภาพการรีดผ้าสูงตามไปด้วย และสามารถรีดรอยยับได้ภายในพริบตาเนื่องจากไอน้ำในปริมาณมากสามารถแทรกซึมเข้าไปในเนื้อผ้า ทำให้การรีดผ้าเรียบทำได้ไวขึ้น ความจุแท็งค์น้ำขนาดใหญ่อยู่ที่ 2200 มิลลิลิตร แท็งค์น้ำสามารถถอดออกได้ แม้ว่าที่ความจุขนาดนี้ แต่ก็สามารถต้มน้ำได้เร็วพร้อมใช้งานภายใน 2 นาที และสามารถเติมน้ำได้เรื่อย ๆ ไม่จำกัด ทำให้สามารถรีดผ้าได้จำนวนมาก ๆ และรีดได้อย่างต่อเนื่อง เหมาะอย่างมากในการใช้งานครอบครัวขนาดใหญ่หรือภายในกิจการเกี่ยวกับเสื้อผ้า
แรงดันปั๊มสูงสุดอยู่ที่ 5 บาร์ ทำให้รีดผ้าในปริมาณมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว การใช้เตารีดรุ่นนี้นอกจากจะไม่เปลืองแรงแล้วยังช่วยประหยัดพลังงานด้วยในกรณีที่รีดผ้าต่อครั้งในปริมาณมาก ๆ เตารีดพลังไอน้ำรุ่นนี้สามารถพกพาได้สะดวกเนื่องจากมีปุ่มล็อคการทำงาน สามารถล็อคตัวเตารีดขณะใช้งานเพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ตัวแท็งค์น้ำสามารถถอดได้และนำไปเติมน้ำได้สะดวก นอกจากนี้ ภายในตัวเครื่องมีระบบขจัดคราบตะกรันอัจฉริยะที่จะมีเสียงเตือน มีไฟขึ้นเมื่อมีคราบตะกรัน ทั้งนี้เพื่อปกป้องตัวเครื่อง ข้อดีอีกอย่างของเตารีดรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อใช้กับน้ำประปาได้ และสามารถเติมน้ำขณะใช้งานได้โดยไม่ต้องรอปิดเครื่องก่อน และมาพร้อมกับสายไฟหมุนได้ 180 องศา
ข้อดี | ข้อเสีย |
➕ เทคโนโลยีสตีมไกลด์ | ➖ ราคาสูง |
➕ พลังไอน้ำได้อย่างต่อเนื่องสูง | |
➕ รักษาความปลอดภัยขณะรีด |
Philips PerfectCare
[wp_live_scraper id=”644″]
ราคาปกติ [wp_live_scraper id=”645″]
ประหยัดทันที [wp_live_scraper id=”646″]
5. Oxygen HD-7201
เตารีดแรงดันไอน้ำ แผ่นทำความร้อนไอออนิคนาโนเซรามิค แรงดันไอน้ำสม่ำเสมอ พร้อมระบบตัดไฟ
รายละเอียด | Oxygen HD-7201 |
---|---|
ความจุแท็งค์น้ำ | 1,000 มิลลิลิตร |
พลังไอน้ำ | 90 กรัม/นาที |
แรงดันไอน้ำ | 4.5 บาร์ |
กำลังไฟฟ้า | 2000 วัตต์ |
เวลาพร้อมใช้งาน | 2 นาที |
รับประกัน | มี |
เรามาดูอีกตัวอีกยี่ห้อกันสำหรับเตารีดพลังไอน้ำเป็นของตระกูล OXYGEN ที่มาพร้อมกับความจุแท็งค์น้ำ 1,000 มิลลิลิตร และสามารถเติมน้ำได้อย่างต่อเนื่องขณะรีดผ้า เตารีดพลังไอน้ำรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อขจัดปัญหาน้ำหยดโดยเฉพาะ แผ่นความร้อนเป็นแบบไอออนิคนาโนเซรามิคทำให้สามารถอัดรีดได้ลื่นและรีดผ้าได้เรียบหมดปัญหาผ้าฝืด แถมผิวหน้าเซรามิคแบบนี้สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้สบาย รีดผ้าได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน และที่สำคัญสามารถรีดได้ทุกเนื้อผ้าโดยไม่เปลืองแรงรีด
ปริมาณความจุน้ำ 1,000 มิลิลิตรสามารถรีดผ้าได้ต่อเนื่องชั่วโมงครึ่งหรือประมาณ 30 ชิ้น ตัวเครื่องออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยจะมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อวางเตารีดบนผ้านานเกิน 30 วินาที เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดกับผ้า หน้าจอที่ใช้ปรับความร้อนของเตารีดเป็นระบบดิจิตอล โดยจะแสดงสถานะระดับความร้อนต่าง ๆ สำหรับการจ่ายไอน้ำไปยังเตารีดจะมีแผ่นที่คอยควบคุมความสม่ำเสมอของการส่งแรงดันไอน้ำ และจะมีปุ่มบอกสถานะการทำงานด้วย ทำให้ง่ายต่อการควบคุม การใช้งานเครื่อง เตารีดรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบล้างตะกรันโดยจะมีไฟกระพริบเตือนเมื่อจำเป็นต้องล้างทำความสะอาดตะกรัน ทำให้ช่วยยืดอายุการใช้งานเตารีดไปได้มาก ความยาวท่อส่งน้ำของเตารีดรุ่นนี้จะอยู่ที่ 1.7 เมตรและความยาวสายไฟอยู่ที่ 1.8 เมตรใช้งานได้สะดวกสำหรับความยาวขนาดนี้
ข้อดี | ข้อเสีย |
➕ ระบบควบคุมแรงดันไอน้ำให้คงที่ | ➖ พลังไอน้ำค่อนข้างต่ำ |
➕ ระบบตัดไฟเพื่อความปลอดภัย | |
➕ เทคโนโลยีแผ่นทำความร้อนใหม่ |
5. Philips GC7035
เตารีดแรงดันไอน้ำเทคโนโลยีล้ำหน้า แผ่นทำความร้อน SteamGlide เหมาะสำหรับทุกการรีดผ้า
รายละเอียด | Philips GC7035 |
---|---|
ความจุแท็งค์น้ำ | 1,700 มิลลิลิตร |
พลังไอน้ำ | 120 กรัม/นาที (พร้อมพลังไอน้ำพิเศษ 210 กรัม) |
แรงดันไอน้ำ | 5 บาร์ |
กำลังไฟฟ้า | 2,400 วัตต์ |
เวลาพร้อมใช้งาน | 2 นาที |
รับประกัน | มี |
ส่วนเตารีดพลังไอน้ำอีกรุ่นของตระกูล Philips รุ่นนี้จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม (OptimalTEMP) สำหรับผ้าแต่ละชนิดโดยไม่ต้องปรับอุณหภูมิของเตารีด ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำหน้าของวงการเตารีดเลยก็ว่าได้ ทำให้สะดวกและไม่ต้องคอยปรับเปลี่ยนอุณหภูมิเมื่อเราเปลี่ยนชนิดผ้าที่รีด แผ่นทำความร้อนเตารีดเป็นแบบ SteamGlide ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการ รีดได้เรียบและลื่นมากขึ้น แถมยังทำความสะอาดได้ง่าย รุ่นนี้มาพร้อมกับแรงดันไอน้ำสูงถึง 5 บาร์ โดยที่มีพลังไอน้ำอยู่ที่ 120 กรัมต่อนาที รองรับการรีดผ้าในแนวตั้งได้ แท็งค์น้ำสามารถเติมได้ตลอดเวลาแม้กำลังใช้งานเครื่องอยู่
หม้อต้มน้ำพร้อมใช้งานภายใน 2 นาทีที่กำลังไฟสูงถึง 2,400 วัตต์ แทงค์น้ำความจุสูงถึง 1,700 มิลลิลิตร ทำให้สามารถรีดผ้าได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด และสามารถใช้ในครัวเรือนขนาดใหญ่ที่รีดผ้าจำนวนมาก ๆ หรือสำหรับกิจการห้างร้านเสื้อผ้าได้สบาย ๆ เลยทีเดียว ถึงแม้แต่ราคาสูงขึ้นมาอีกหน่อยแต่ถ้าเทียบประสิทธิภาพในการทำงานและความเร็วในการรีดผ้าแล้ว ถ้าใครพอมีงบก็แนะนำเตารีดพลังไอน้ำรุ่นนี้ เพราะว่าสามารถรีดได้ในปริมาณมาก ๆ และคุ้มค่ากับเวลาและเงินที่จ่ายไป
ข้อดี | ข้อเสีย |
➕ เทคโนโลยีปรับอุณหภูมิ (OptimalTEMP | ➖ ราคาค่อนข้างสูง |
➕ แรงดันไอน้ำสูง | |
➕ แท็งค์น้ำเติมได้ตลอดเวลา |
Philips GC7035
[wp_live_scraper id=”641″]
ราคาปกติ [wp_live_scraper id=”642″]
ประหยัดทันที [wp_live_scraper id=”643″]
เป็นอย่างไรกันบ้าง? เตารีดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ควรพิจารณาพอสมควร ทั้งในแง่ของความปลอดภัยในการใช้งานและการประหยัดเวลา การใช้งานเตารีดไม่เหมือนกับการใช้งานหม้อหุงข้าวที่เราสามารถหุงทิ้งไว้ได้ แต่เตารีดนั้นเราต้องคอยควบคุมและมีสติอยู่กับมันอยู่ตลอดเวลา การเลือกเตารีดคุณภาพดีนอกจากจะช่วยทุ่นแรงและเวลาเราไปได้แล้ว ยังช่วยรักษาความปลอดภัยให้เราและเสื้อผ้าของเราด้วย โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก ๆ ชอบวิ่งเล่นซุกซน หวังว่าที่เราได้รีวิวมาข้างต้น จะมีสักหนึ่งอันที่เข้าไปอยู่ในใจคุณแล้วนะ
คุณชอบสินค้านี้หรือไม่?
คลิกที่ดาวเพื่อทำการให้คะแนน
คะแนนเฉลี่ย: / 5. จำนวนโหวต: