เราเตอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่ทุกคนควรมีในปี 2022?

และแล้ววันนี้เราก็ได้เวลามารีวิวเราเตอร์ซึ่งเป็นเครื่องสำหรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตกันซะที แต่ก่อนอื่นเรามาดูข้อมูลกันเล็กน้อยว่าเราเตอร์คืออะไร “เราเตอร์” เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่สามารถส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายทั้งที่เป็นแบบต่อเชื่อมสายและแบบไร้สาย เมื่อลงลึกทางเทคนิคแล้ว เราเตอร์ จะเป็นอุปกรณ์เกตเวย์ที่ใช้ส่งสัญญาณเครือข่าย นั่นหมายถึง เราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อเครือข่ายและกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย ซึ่งสามารถส่งสัญญาณไปยังทั้งคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ฯลฯ เจ้าตัวเราเตอร์นี้จะเชื่อมต่อกับเครือข่ายตั้งแต่ 2 เครือข่ายขึ้นไป และจะทำงานที่เลเยอร์เครือข่ายของโมเดล OSI เราเตอร์จะประกอบไปด้วยระบบประมวลผล หน่วยความจำแบบดิจิตอลหลายประเภท และอิเตอร์เฟสทั้งอินพุตและเอาท์พุต (I/O) ซึ่งถ้าเรียกง่าย ๆ ก็คือ เราเตอร์จะทำงานเหมือนคอมพิวเตอร์เครื่องย่อม ๆ ที่ไม่ต้องมีคีย์บอร์ดและหน้าจอ โดยออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ นั่นคือ การรับ-ส่งสัญญาณ

มาถึงตรงนี้หลายคนคงคิดว่าทำไมเราเตอร์ต้องมีหน่วยความจำด้วย ก็เราไม่ได้ป้อนอะไรเข้าไปในเราเตอร์ คำตอบคือ หน่วยความจำของเราเตอร์นั้นทำหน้าที่เก็บระบบปฏิบัติการที่ฝังอยู่นั่นเอง ซึ่งหน่วยความจำของเราเตอร์นั้นจะจุได้น้อยมากเพราะใช้เฉพาะกับแอปพลิเคชั่นไม่กี่ตัว นอกจากนี้ เราเตอร์ยังสามารถกรองปริมาณการใช้งานของอินเทอร์เน็ตทั้งเข้าและออกด้วย โดยทั่วไปแล้วเราแบ่งเราเตอร์ออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน ดังนี้

เราเตอร์สำหรับการใช้งานทั่วไป: ในสมัยก่อนเราเตอร์จะมีใช้งานในองค์กรธุรกิจหรือตามโรงเรียนเท่านั้น และราคาของเราเตอร์ก็แสนแพง นับได้ว่าหลักหลายแสนบาทเลยทีเดียวและต้องมีการฝึกอบรมให้สามารถตั้งค่าและจัดการเจ้าเราเตอร์แสนแพงนี้ได้ แต่ทุกวันนี้เรียกได้ว่าเกือบทุกบ้านมีเราเตอร์ใช้กันในหลักต่ำกว่าพันไปจนถึงหลายพันบาทแล้ว ซึ่งโดยปกติ เราเตอร์ที่ใช้งานแบบทั่วไปจะไม่มีฟังก์ชั่นอะไรมากมาย เช่น การรักษาความปลอดภัยระดับสูง การส่งสัญญาณไร้สายขั้นสูง หรือการส่งสัญญาณได้ระยะไกลมาก ๆ เป็นต้น

เราเตอร์สำหรับเกมส์และงานมืออาชีพ: เราเตอร์สำหรับคอเกมส์หรือการใช้งานแบบมืออาชีพเช่นผู้ที่ทำงานที่บ้าน โดยส่วนมากจะมีราคาแพงขึ้นมาจากแบบธรรมดามาก ซึ่งจากสองสามพันอาจถึงหลักหมื่นหรือหลายหมื่นได้ เราเตอร์แบบนี้จะสามารถส่งสัญญาณได้ที่ความเร็วสูง มีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่มาพร้อมกับการรักษาความปลอดภัยระบบไร้สายระดับสูง ความสามารถในการรับส่งข้อมูลสูง สามารถทำงานได้ที่เวลาแฝงต่ำ เป็นต้น เราเตอร์สำหรับธุรกิจจะสามารถจัดการข้อมูลต่าง ๆ อยู่อยู่บนเครือข่ายหลายเทระบิตได้ นอกจากนี้ เราเตอร์ที่ใช้สำหรับธุรกิจนั้นต้องมีความปลอดภัยสูงมาก โดยเฉพาะที่ใช้สำหรับอินเทอร์เน็ตในธุรกิจด้านการเงินและธุรกิจที่มีความเสี่ยง

พ็อคเก็ต Wi-Fi: สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่บ้านตลอดเวลาและต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากซิมการ์ดตัวเดียวไปยังอุปกรณ์สื่อสารหลายเครื่องนั้น จะเลือกใช้ตัวส่งสัญญาณที่เรียกว่า “พ็อคเก็ต Wi-Fi” หรือ Wi-Fi พกพานั่นเอง โดยที่เจ้าพ็อคเก็ต Wi-Fi จะเป็นตัวส่งสัญญาณผ่านการใช้งานซิมการ์ดเพื่อส่งสัญญาณออกไปให้กับอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ การใช้งานลักษณะนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางเป็นหมู่คณะหรือเป็นครอบครัว หรือการเดินทางไปต่างประเทศที่ไม่ต้องการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการซื้อซิมการ์ดแบบชั่วคราวหลายซิม จึงสามารถใช้พ็อคเก็ต Wi-Fi นี้ในการส่งสัญญาณไปให้อุปกรณ์สื่อสารได้หลายเครื่อง ข้อดีอย่างสำหรับการเชื่อมต่อกับพ็อคเก็ต Wi-Fi ก็คือ จะทำให้ไม่เปลืองแบตเตอรี่อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับพ็อคเก็ต Wi-Fi นั่นเอง

เราเตอร์สำหรับผู้ใช้งานแบบปกติ

1. Asus RT-N300
2. Linksys WRT54G
3. TP-Link TL-WA801ND

เราเตอร์สำหรับเกมส์และงานมืออาชีพ

1. Asus RT-AC5300
2. D-Link DIR-859
3. Asus RT-AC68U

พ็อคเก็ต Wi-Fi (Wi-Fi พกพา)

1. Huawei Unlocked E5577 4G Pocket WiFi
2. TRUE Shared WIFI 3

เราเตอร์สำหรับผู้ใช้งานแบบปกติ

1. Asus RT-N300

เราเตอร์สัญญาณไร้สาย 3 in 1 ส่งสัญญาณได้ราบรื่น ไม่สะดุด

ตัวแรกนี้ให้เรามาดูเราเตอร์อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงราคาเบา ๆ ที่ผู้ใช้งานแบบปกติทั่วไปนิยมใช้กันซึ่งเป็นยี่ห้อ ASUS รุ่นนี้สามารถรับ-ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้สูงที่ความเร็วสัญญาณสูงสุด 300 เมกะบิตต่อวินาที โดยเราเตอร์รุ่นนี้มีขนาดเล็กกะทัดรัดและมาในแบบ 3 in 1 ที่เป็นทั้ง เราเตอร์ ตัวกระจายสัญญาณซึ่งเรียกว่า “แอคเซสพอยต์” และตัวขยายสัญญาณหรือเรียกว่า “เรนจ์เอ็กเทนเดอร์” ทำหน้าที่ขยายสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังบริเวณที่ห่างไกลจากเราเตอร์เช่น ระหว่างชั้นในอาคาร บ้านคนละหลัง เป็นต้น เราเตอร์รุ่นนี้ถือว่าส่งสัญญาณได้ราบรื่นมาก ไม่ค่อยมีปัญหาเราเตอร์ติดขัด

ที่ตัวเราเตอร์มีเสาอากาศสองตัวซึ่งเป็นแบบ 5dBi (เราเตอร์ทั่วไปเป็นแบบ 2 dBi) ติดตั้งกับตัวเราเตอร์ ทำให้สามารถส่งสัญญาณไปได้ครอบคลุมมากกว่าแบบเสาเดียว แถมยังให้อินเทอร์เน็ตที่แรงกว่าด้วย พร้อม 4 SSID ที่ช่วยจัดการแจกแจงความเร็วในการส่งข้อมูลและควบคุมการเข้าใช้งาน เราเตอร์ตัวนี้สามารถรับและส่งสัญญาณได้ที่ 2.4G~2.4835 กิกะเฮิร์ตซ์ ส่วนดีไซน์ของเราเตอร์รุ่นนี้ก็ดูทันสมัย ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เชื่อมต่อสาย LAN ได้ 4 สาย ใช้ระบบ Virtual เซอร์ฟเวอร์, UPnP ในการปกป้องการตั้งค่า Wi-Fi สัญญาณไฟที่เราเตอร์เป็นแบบ LED ซอฟท์แวร์ที่ใช้คือ Dual Active Firewalls – SPI และ NAT เราเตอร์รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจออินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย ทำให้ไม่งงกับการตั้งค่า แถมยังสามารถควบคุมการใช้งานจากแอปพลิเคชั่นของ ASUA ที่ให้ผู้ใช้งานตรวจสอบความถี่ในการรับส่งข้อมูล ปัญหาการใช้งาน ไปจนถึงอัปเดทเฟิร์มแวร์ และการตั้งค่าเราเตอร์ด้วย ซึ่งการตั้งค่าเราเตอร์ของ ASUS รุ่นนี้ก็สามารถทำได้ง่ายมากเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านแอปฯหรือบน PC เพียงแค่เปิดเบราเซอร์ขึ้นมา ใส่รหัสผ่าน ก็สามารถใช้งานได้แล้ว

2. เราเตอร์บรอดแบนด์ Linksys Wireless-G รุ่น WRT54GL-AS

เราเตอร์ ติดตั้งง่าย ตั้งค่าง่าย นำด้วยเทคโนโลยี MIMO

ส่วนตัวที่สองของเราเตอร์แบบที่ใช้งานทั่วไปนั้น เป็นเราเตอร์คุณภาพสูงจาก Cisco Systems Inc. รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบโมเด็ม DSL มีพอร์ตต่ออีเธอร์เน็ตจำนวน 4 พอร์ต ติดตั้งง่าย ไม่จำเป็นต้องมีสายเคเบิ้ลให้ยุ่งยาก สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารไร้สายต่าง ๆ รวมถึงปริ๊นเตอร์ไร้สายได้ง่ายดาย นอกจากนี้ เราเตอร์รุ่นี้ยังสามารถอัปเกรดเฟิร์มแวร์จากผู้ให้บริการรายอื่นได้ด้วย ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น ใช้เทคโนโลยี MIMO ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโมเด็ม ทำให้การรับและส่งข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นเราเตอร์ที่สามารถตั้งค่าได้ง่ายมาก โดยตั้งค่าได้จากปุ่มเดียว พร้อมรักษาความปลอดภัยในการตั้งค่าด้วย

เราเตอร์ Linksys รุ่นนี้ทำการส่งสัญญาณไร้สายเป็นแบบ G ซึ่งส่งได้ 54 เมกะบิตต่อวินาที เสาอากาศที่ใช้เป็นแบบแบบ 2dBi ซึ่งมีสองตัว ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นด้านบนจะถือว่าส่งสัญญาณได้ไม่แรงและไม่เร็วเท่า เหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อเซิร์ฟอินเตอร์เน็ตทั่วไป แต่ข้อดีของเราเตอร์รุ่นนี้คือ รุ่นนี้ถือว่าเป็นเราเตอร์คุณภาพดีและทนมาก ๆ ไม่ค่อยมีปัญหาในการใช้งานหรือเราเตอร์ทำงานสะดุด ทำงานเสถียร หลายคนแนะนำเราเตอร์รุ่นนี้สำหรับเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องและต้องการความน่าเชื่อถือสูง

3. เราเตอร์ TP-LINK Wireless N รุ่น TL-WA801ND

เราเตอร์ความเร็วสูง ระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุด ส่งสัญญาณเร็วถึง 9 เท่า

สำหรับเราเตอร์รุ่นนี้ถือได้ว่าส่งสัญญาณได้แรงใกล้เคียงกับเราเตอร์ที่ใช้สำหรับการเล่นเกมส์ออนไลนเลยทีเดียว แต่เอามาจัดอยู่ในหมวดนี้เพราะว่าอยากแนะนำเราเตอร์ที่ส่งสัญญาณได้แรงอีกรุ่นให้กับผู้ใช้งานทั่วไปได้ลองเปรียบเทียบดู แถมรุ่นนี้ถือว่าเราคาถูกมากเมื่อเทียบกับศักยภาพของตัวเครื่อง

โดยความเร็วในการส่งสัญญาณไร้สายของเราเตอร์รุ่นนี้สูงถึง 300 เมกะบิตต่อวินาที ซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่าเราเตอร์รุ่นนี้สามารถรับ-ส่งความเร็วได้ถึง 9 เท่าเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับรุ่นใกล้เคียงในราคาใกล้เคียงกัน เราเตอร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การค้นหาบน Search Engine ธรรมดา ไปจนถึงการดูวิดีโอสตรีมมิ่งและการเล่นเกมส์ออนไลน์ รุ่นนี้ก็เช่นกัน ออกแบบมาให้ติดตั้งง่ายและเข้ารหัสรักษาความปลอดภัยได้ง่ายด้วย และมาพร้อมสาย LAN ที่ยาวถึง 30 เมตร

เราเตอร์รุ่นนี้มาพร้อมกับปุ่มที่ช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับระบบสัญญาณไร้สายด้วยฟังชั่น WI- FI Protected Setup ™ หรือ WPS ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาความปลอดภัยของการส่งสัญญาณแล้วยังทำให้การติดตั้งการรักษาความปลอดภัยทำได้ง่าย ข้อดีอีกอย่างของฟังก์ชันนี้ก็คือการตั้งค่าเพื่อรักษาความปลอดภัยนั้นทำได้ที่ปุ่มเดียว ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องจดจำรหัสผ่านให้ยุ่งยาก และการเข้ารหัสเพื่อรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดที่เรียกว่า WPA2 เป็นการรักษาความปลอดภัยในการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายที่สร้างขึ้นโดยพันธมิตรเครือข่ายไร้สายเพื่อช่วยในการรักษาความปลอดภัยให้กับการใช้งานทั้งในองค์กรธุรกิจและการใช้งานส่วนบุคคลที่สูงชึ้นที่มาพร้อมกับรุ่นนี้ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าเราเตอร์ตัวนี้ให้สามารถกระจายสัญญาณไปได้ไกลถึง 100 ฟุต ซึ่งจะให้สัญญาณแรงแม้ในบริเวณที่มีผนังกั้นหรือจุดอับ

1. เราเตอร์ ASUS รุ่น RT-AC5300 สัญญาณไร้สาย Tri-Band Gigabit

เราเตอร์ความเร็วจรวด คุณภาพเยี่ยม ฟังก์ชั่นเราเตอร์ครบ

ตัวแรกในหมวดนี้เราจะมาดูเราเตอร์ในตระกูล ASUS กัน เราเตอร์รุ่นนี้เรียกได้ว่าเป็น เราเตอร์ขั้นเทพ เราเตอร์คุณภาพเยี่ยมแบบไม่มีที่ติเลยก็ว่าได้ แต่ด้วยคุณภาพขนาดนี้ราคาจึงไม่น้อยเลยล่ะโดยอยู่ที่หลักหมื่นต้น ๆ ก่อนอื่นเราไปดูกันก่อนว่าทำไมเราเตอร์รุ่นนี้ถึงราคาสูงมากกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื่องจากเราเตอร์รุ่นนี้สามารถส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้แรงและมีความเสถียรอย่างมาก เรียกได้ว่าพบปัญหาน้อยมาก ๆ ในการใช้งาน (ยกเว้นปัญหาตอนควักกระเป๋าซื้อ) จึงเหมาะสำหรับการใช้งานดูหนัง ดูวีดีโอ หรือเล่นเกมออนไลน์ที่ต้องใช้ความแรงของอินเทอร์เน็ตสูง ๆ โดยที่ความเร็วสูงสุดรวมสูงถึง 5300 เมกะบิตต่อวินาที รองรับสัญญาณไร้สาย AC 2.4 กิกะเฮิร์ตซ์ (1000 เมกะบิตต่อวินาที) และ 5 กิกะเฮิร์ตซ์ (2167 เมกะบิตต่อวินาที) ที่ความเร็วขนาดนี้ทำให้เล่นเกมส์ออนไลน์หรือการดูหนังสตรีมมิ่งได้ไม่สะดุด นอกจากนี้ เราเตอร์ตัวนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษ นั่นคือ ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานเราเตอร์และตรวจสอบการทำงานได้จากทั่วทุกมุมโลกจากแอปฯของ ASUS ซึ่งฟังก์ชันนี้จะเหมาะสำหรับการควบคุมความจุในการรับส่งข้อมูลผ่านเราเตอร์ การตั้งค่าเราเตอร์ รวมถึงการตั้งค่าอื่น ๆ ด้วย

และด้วยความเป็นเราเตอร์คุณภาพสูงจึงสามารถส่งสัญญาณได้ไกลและส่งตรงถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ เราเตอร์รุ่นนี้มาพร้อมกับเสาอากาศมาถึง 8 ตัวที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ จึงทำให้สามารถเชื่อมต่อได้ที่ความเร็วสูงมาก ๆ ที่ตัวเราเตอร์มี USB 2 ช่องไว้สำหรับเชื่อมต่อเพื่อทำการแชร์ไฟล์ขนาดใหญ่ผ่านสัญญาณเครือข่ายหรือส่งยังปริ้นเตอร์ และสามารถใช้สำหรับการแชร์อินเทอร์เน็ตจากแอร์การ์ดได้ด้วย เราเตอร์ตัวนี้รองรับเซอร์ฟเวอร์หลายตัว ซึ่งในรีวิวนี้ไม่สามารถแจกแจงได้หมด จึงแนะนำว่าคอเกมส์หรือผู้ใช้งานที่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือเราเตอร์คุณภาพสูง สามารถดูรายละเอียดของเซอร์ฟเวอร์ที่เราเตอร์ตัวนี้รองรับได้ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ นอกจากนี้ เราเตอร์ตัวนี้ยังมีฟังก์ชันบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เช่นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก เว็บไซต์ที่ไม่ประสงค์ดี รวมถึงการลักลอบเข้ารหัสรักษาความปลอดภัยด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าได้บนสมาร์ทโฟน

2. เราเตอร์ D-Link รุ่น DIR-859 AC1750 เราเตอร์สัญญาณไร้สาย Gigabit

เราเตอร์ความเร็วสูงสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบมืออาชีพ

คราวนี้มาถึงเราเตอร์สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงอีกตัวหนึ่ง นั่นคือ เราเตอร์ในตระกูล D-Link ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับการส่งสัญญาณความเร็วสูง โดยที่ความถี่ 5 กิกะเฮิร์ตซ์สามารถส่งสัญญาณได้สูงสุด 1300 เมกะบิตต่อวินาที และที่ความถี่ 2.4 กิกะเฮิร์ตซ์สามารถส่งสัญญาณได้สูงสุด 450 เมกะบิตต่อวินาที เราเตอร์รุ่นนี้จะมีเสาอากาศ 3 เสา สามารถส่งสัญญาณได้สูงมาก นอกจากนี้ ยังสามารถตั้ง Dual Active Firewall ได้ แยกโซนการใช้งานสำหรับผู้อื่นได้เพื่อความปลอดภัยการใช้เครือข่ายสัญญาณ เราเตอร์ รุ่นนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถดูวิดีโอสตรีมมิ่งความละเอียดสูงหรือเล่นเกมส์ออนไลน์ได้สบาย ๆ แถมยังมีฟังชั่นช่วยหลีกเลี่ยงการรบกวนสัญญาณ เพื่อให้สัญญาณที่ส่งไปยังอุปกรณ์มีความแรงมากและมีเสถียรภาพมากด้วย

เราเตอร์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี AC 1750 จึงทำให้สามารถเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายได้คงที่และมีความแรงสูง ที่การส่งสัญญาณที่ความถี่ 5 กิกะเฮิร์ต นอกจากจะทำให้สามารถเล่นเกมส์ดูวีดีโอสตรีมมิ่งแล้วยังทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ได้รวดเร็วด้วย นอกจากนี้ เราเตอร์รุ่นนี้ยังรับประกันอุปกรณ์ไปจนตลอดอายุการใช้งานของเราเตอร์เลยทีเดียว ซึ่งเราเตอร์คุณภาพสูงอย่างนี้บางครั้งก็สามารถใช้งานไปได้เป็นสิบปี แต่ปกติแล้วการใช้งานเราเตอร์โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 5-7 ปีก็ถือว่าค่อนข้างล้าสมัยแล้วเพราะเทคโนโลยีทุกวันนี้เปลี่ยนเร็วมาก

3. เราเตอร์ ASUS รุ่น RT-AC68U สัญญาณไร้สาย Dual-band AC1900 Gigabit

เราเตอร์ เทคโนโลยี Beamforming ระบบรักษาความปลอดภัยสูง เทคโนโลยี GameStream

เราเตอร์ของ ASUS รุ่นนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเราเตอร์ที่ขายดีที่สุดในตลาดบ้านเราสำหรับคอเกมส์หรือผู้ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (มากกว่าปกติ) ซึ่งเราเตอร์รุ่นนี้มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Dual-Core ที่สามารถส่งสัญญาณความถี่ทั้ง 2.4 กิกะเฮิร์ตซ์และ 5 กิกะเฮิร์ตซ์ แถมรองรับเทคโนโลยี GameStream จาก NVIDIA ด้วย ซึ่งคอเกมส์กราฟิกสูงทั้งหลายต้องการฟังก์ชั่นในลักษณะเช่นนี้ในการเล่นเกมส์ออนไลน์ขั้นสูง นอกจากนี้เราเตอร์รุ่นนี้ยังทำงานเหนือกว่าเราเตอร์แบบ 802.11N ถึง 3 เท่าด้วยพลังประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณสูงสุดถึง 1.9 Gigabit (1900 เมกะบิตต่อวินาที) โดยใช้เทคโนโลยีการส่งสัญญาณไร้สายล่าสุดนั่นคือ เทคโนโลยี AC (802.11AC) ทำให้สามารถดูวิดีโอสตรีมมิ่งและเล่นเกมส์ออนไลน์ได้ไม่สะดุด ลดการกระตุกในระหว่างเล่นเกมส์ หรือการสนทนาผ่านทางอินเทอร์เน็ตด้วย

เราเตอร์ของ Asus รุ่นนี้มาพร้อมกับพอร์ต USB 2 พอร์ตด้วยกันเพื่อให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นเช่น ปริ้นเตอร์ ได้ นอกจากนี้ สำหรับใครที่ชอบการใช้งานบนคลาวด์ เราเตอร์ ASUS ตัวนี้ยังมาพร้อมกับบริการ AiCloud ที่จะช่วยให้เครือข่ายของคุณที่ใช้ในบ้านเป็นระบบคลาวด์ส่วนตัวไปได้สบายเลย โดยคลาวด์จะทำให้สามารถแชร์ไฟล์ไปยังอุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ หรือไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้อย่างสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ เราเตอร์ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติการเชื่อมต่อเราเตอร์ 2 ตัวเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถแชร์ไฟล์ได้สะดวกผ่านอุปกรณ์ Storage ที่เชื่อมต่อด้วย USB สามารถส่งไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ระบบ AiProtection จะช่วยรักษาความปลอดภัยในการใช้งานสัญญาณเครือข่ายซึ่งเป็นมาตรฐานจาก Trend Micro ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยในโลกออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันควบคุมการใช้งานอินเตอร์เน็ตของเด็ก ๆ ด้วย โดยจะช่วยบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่ประสงค์ดีและแจ้งเตือนผู้ใช้งานหากมีผู้พยายามเข้ารหัสเครือข่ายสัญญาณของผู้ใช้งาน ช่วยปกป้องรหัสผ่านต่าง ๆ ของผู้ใช้งานให้มีความปลอดภัยสูงขึ้น หน้าจออินเตอร์เฟสของเราเตอร์ช่วยให้การตั้งค่าอินเตอร์เน็ตทำได้ง่าย ทางผู้ผลิตเขาเคลมว่าสามารถตั้งค่าได้ภายใน 30 วินาทีเท่านั้นเอง ซึ่งเรียกได้ว่าไวยังกับฟ้าแล็บ

1. พ็อคเก็ต Wi-Fi ตระกูล Huawei รุ่น E5577 สำหรับ 4G

พ็อคเก็ต Wi-Fi แบตเตอรี่ทน ส่งสัญญาณได้ถึง 10 เครื่อง ความเร็วในการเชื่อมต่อสูง

พ็อคเก็ต Wi-Fi ตัวแรกที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้จะเป็นยี่ห้อที่มาแรงอย่าง Huawei ซึ่ง Wi-Fi แบบพกพารุ่นนี้สามารถใช้ได้กับทั้ง 3 เครือข่ายที่ให้บริการ 4G ไม่ว่าจะเป็น AIS, DTAC และ TrueMove รวมถึงสามารถใช้ได้กับเครือข่ายสัญญาณต่างประเทศทั้งหมดที่ให้บริการเครือข่าย 4G อย่างที่บอกไปแล้วว่าพ็อคเก็ต Wi-Fi นั้นจะเหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยครั้งและเดินทางเป็นกลุ่ม การใช้งานพ็อคเก็ต Wi-Fi นี้มาใช้ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้กับเพื่อนร่วมทริปได้ง่ายและสะดวก แถมยังไม่เปลืองแบตโทรศัพท์มือถือเหมือนการเชื่อมต่อ Wi-Fi ทั่วไปด้วย

พ็อคเก็ต Wi-Fi รุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 1500mAH ที่สามารถใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง หน้าจอเป็นแบบ LCD ขนาด 1.45 นิ้ว ที่จะแสดงสถานะการใช้ข้อมูล แสดงเครือข่ายและความแรงของสัญญาณ เป็นการส่งสัญญาณ Wi-Fi ที่ 802.11b/g/n ช่วงความถี่ 2.4 กิกะเฮิร์ตซ์ สามารถดาวน์โหลดได้ที่ความเร็วสูงสุด 150 เมกะบิตต่อวินาที ส่วนการอัปโหลดนั้น เช่น การอัปโหลดรูปหรือวีดีโอขึ้นบน Social Media หรือ YouTube สามารถอัปโหลดได้ที่ความเร็ว 50 เมกะบิตต่อวินาที เจ้าตัวพ็อคเก็ต Wi-Fi ของตระกูล Huawei รุ่นนี้สามารถส่งสัญญาณไร้สายไปยังอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ ได้สูงสุด 10 เครื่องที่เข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตพร้อมกัน

2. พ็อคเก็ต Wi-Fi ตระกูล TRUE SHARED รุ่น WI-FI 3

พ็อคเก็ต Wi-Fi ราคาถูก ใช้งานได้ทุกเครือข่าย เชื่อมต่อสูงสุด 10 อุปกรณ์

พ็อคเก็ต Wi-Fi รุ่นนี้เป็นของตระกูลทรูมูฟที่ออกมาแข่งขันกับพ็อคเก็ต Wi-Fi รุ่นอื่น ๆ โดยรุ่นนี้จะราคาถูกกว่าพ็อคเก็ต Wi-Fi รุ่นด้านบน รองรับ 3G/HSPA+ จากทุกเครือข่ายไม่ว่าจะเป็น AIS, DTAC, TRUE, MY, TOT, Penguin หรือ Open ความเร็วสูงสุดในการส่งสัญญาณไร้สายคือ 21.6 เมกะบิตต่อวินาที ส่วนความเร็วในการอัปโหลดนั้นอยู่ที่ 5.76 เมกะบิตต่อวินาที โดยสามารถส่งสัญญาณไร้สายไปได้สูงสุด 10 เครื่องในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ พ็อคเก็ต Wi-Fi รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน USSD ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบยอดเงินและสามารถเติมเงินได้สะดวกขึ้น

พ็อคเก็ต Wi-Fi รุ่นนี้รองรับเครือข่าย 2G รวมถึง GPRS และ EDGE ของทุกเครือข่ายด้วย มาตรฐาน Wi-Fi คือ 802.11 b/g/n และพ็อคเก็ต Wi-Fi รุ่นนี้ยังรองรับ Micro SD Card ที่หน่วยความจำสูงสุดถึง 32 GB และมาพร้อมกับฟังก์ชัน WPS ที่แค่กดก็สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ในทันที ที่ด้านบนของตัวพ็อกเก็ต Wi-Fi จะมีแถบหน้าจอที่แสดงสถานะของแบตเตอรี่ ความแรงของสัญญาณ ข้อความที่เข้ามาในซิมการ์ด และสัญญาณโทรศัพท์ของซิมการ์ดเอง ซึ่งแต่ละตัวจะแสดงสีที่แตกต่างกัน ทำให้สะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้ พ็อคเก็ต Wi-Fi รุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวขนาด 1500mAH ที่สามารถใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง และปล่อยสแตนด์บายได้ถึง 100 ชั่วโมงเลย